คิดให้ง่าย ชีวิตก็ง่าย ในแบบ อนันดา

คิดให้ง่าย ชีวิตก็ง่าย ในแบบ อนันดา

คิดให้ง่าย ชีวิตก็ง่าย ในแบบ อนันดา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"จริงๆ นักแสดงไม่ใช่อาชีพที่ผมฝันเลย เพราะจริงๆ ผมเป็นเด็กขี้อายมาก บวกกับการที่เข้ามาอยู่ในวงการไม่ได้มาด้วยจุดประสงค์ที่อยากจะดัง อยากจะมีชื่อเสียง มันผิดกับนิสัยผมด้วยซ้ำ เพราะผมคิดมาตลอดว่าอยากเป็นนักชีวทางทะเล อยากอยู่บนเรือ ไม่ต้องสุงสิงกับสังคม ดำน้ำไปเรื่อยเปื่อย ตอนแรกคิดว่าชีวิตจะออกไปแนวนั้นแล้ว คือประมงหน่อยๆ (ยิ้ม)

แต่โชคดีมาเจอคุณมิ่งขวัญ (มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ) เขาเป็นคนพาผมเข้าแกรมมี่ จำได้ว่าตอนนั้นผมอายุ 14 ระหว่างถ่ายอันดากับฟ้าใส คนก็เริ่มรู้จักผมจากเรื่องนี้และทุกคนก็คิดว่าเขาเขียนมาเพื่อผม คิดว่าผมชื่ออันดา เลยกลายเป็นว่าทุกคนเรียกผมว่าอันดาอยู่ประมาณ 10 ปี (หัวเราะ) จนทุกวันนี้เขาก็ยังเรียกว่าอันดา คนจะติดภาพนั้น พอได้มาเจอความรับผิดชอบผ่านการทำงาน ก็เลยโตมาอย่างนั้นแทน และเรื่องที่ว่าอยากจะเป็นนักแสดงรึเปล่ามันเกิดขึ้นมาหลังจากที่ผมรับผิดชอบตัวเองเป็น รู้จักศรัทธาในเนื้องานตัวเอง และค่อยมาพัฒนาตัวเอง เพราะมีช่วงหนึ่งที่ผมเขวๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นนักแสดงดีไหม เลยออกไปแบ็กแพ็ก

พอกลับมาถึงได้รู้สึกว่าเรามีความรับผิดชอบต่อคนที่ให้โอกาสเรามา มีความรับผิดชอบต่อครูของเราคือหม่อมน้อย (ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล) คนดูและศาสตร์ที่เราได้มา ก็ตัดสินใจว่าลองซะหน่อยไหม และต้องการให้คนอื่นเห็นว่าผมไม่ใช่พวกทีนไอดอลที่ปรากฏขึ้นมาแล้วก็หายไป ผมก็มีความพยายาม ผมก็เป็นนักแสดงได้เหมือนกัน ตั้งแต่จบเรื่องชัตเตอร์ก็เริ่มวิเคราะห์และดูงานของตัวเอง เริ่มที่จะตั้งมาตรฐานให้ตัวเองว่าแบบไหนคือรสนิยมของเรา และควรจะต่อสู้ไปสู่จุดนั้นให้ได้ เพราะผมไม่ใช่พวกมีพรสวรรค์ ไม่ใช่แบบ Born to be เข้าไปอยู่ในกล้องแล้วเล่นได้เลย ของผมมันต้องค่อยๆ พัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ ทุกอย่างเกิดจากการวิเคราะห์งานตัวเอง ผมใช้ระบบนั้นในการทำให้งานดีขึ้นๆ และพยายามจะฟังพวก Critic ทั้งหลายที่บอกอันนั้นดีอันนี้ไม่ดี ไอ้ส่วนที่ไม่ดีก็แก้ไข และทำมันไปเรื่อยๆ

เมื่อก่อนผมเครียดนะ ผมติดนิสัยเป็น Perfectionist เหมือนกัน ชอบตั้งมาตรฐานให้ตัวเอง และพอขี้เกียจเราจะทำไม่ถึงมาตรฐานนั้น มันเหมือนโกงตัวเอง โกงคนที่เราทำงานและโกงคนดูด้วย มันไม่สมกับสิ่งที่เขาให้เรามา เลยกดดันตัวเองมากพอสมควร บางครั้งก็เลยกลายเป็นคนวิติกจริตมั่ง นอนไม่หลับมั่ง แต่ถึงตอนนี้ผมรู้สึกเข้าใจมากขึ้นว่าอาชีพนี้มันคืออะไร จุดประสงค์ของมันคืออะไร จนช่วง 2 ปีหลังนี้มีแนวคิดใหม่ว่า Keep it Simple กลายเป็นสิ่งที่เวิร์กมากเลย คิดให้ง่าย และมันง่ายจริงๆ ด้วย ทุกอย่างง่ายไปหมดเลย ซึ่งนี่คือสิ่งที่พี่เอก (สรพงศ์ ชาตรี) เขาทำโดยที่เราไม่รู้ตัวนะ อยู่กองถ่ายนั่งอ่านหนังสือธรรมะอยู่อย่างนั้นคนเดียว พอเข้าฉากเขาสั่งได้ทันทีเลย มันมีผลจริงๆ

พี่เอกเป็นนักแสดงที่ผมคิดว่ารอบข้างเขาเต็มไปด้วยคนที่ทำงานด้วยความฉาบฉวย ผมคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในนั้นที่โปร มืออาชีพที่สุดแล้ว ทำงานมานานขนาดนี้ไม่มีความชะล่าใจ ไม่มีการดูถูกคนดู ไม่ดูถูกทีมงาน เขายังเห็นว่างานเขาต้องมีคุณค่า พอผมได้ทำงานกับคนหลายๆ วัย เห็นพี่เอกแล้วรู้สึกเสียดายแทนพวกน้องใหม่ที่เกิดขึ้นมาแล้วก็ดับหายไป เพราะรู้สึกว่าถ้าอยากอมตะ อยากจะมีคุณค่าต่อคนดูตลอดไป แค่ไปดูพี่เอกแล้วคุณจะเข้าใจเองว่าทำไมเขาอยู่ได้ตลอดกาลจริงๆ คนที่ทำงานกับพี่เอกไม่มีใครแปลกใจเลยว่าทำไมถึงทุกวันนี้เขาก็ยังเป็นท็อปของอาชีพเขาอยู่ ซึ่งผมคิดว่านักแสดงรุ่นใหม่ต้องดูพี่เอกเป็นตัวอย่าง

เพราะผมคิดว่าการแสดงคือศิลปะ ถ้าทำถูกต้องแล้ว ถ้าจริงใจกับมัน มันก็คือการสื่อสารศิลปะอย่างหนึ่งให้กับคนดู มันเป็น Performing Art ทั้งหมด การแสดงทำให้ผมเห็นว่ามันคือธรรมชาติ พักหลังๆ ผมเรียนพวกธรรมะควบคู่กับงานแสดง พอได้เห็นแล้วทำให้รู้ว่า ศาสนาพุทธมีความคล้ายกับการแสดงมาก การแสดงคือการกำหนดจิตตัวเองให้รู้ว่าจุดโฟกัสมันอยู่ตรงไหน และศิลปะของมันก็คือการคอนโทรลจิตตรงนั้น แล้วก็สื่อสารมันออกมา นี่เป็นสิ่งที่ผมเริ่มจะค้นพบด้วยการนั่งสมาธิ ผมมองว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้งานของเราอาจจะมีความแตกต่างบ้าง อาจจะเป็นเรื่องของความจริงใจ ผมแคร์คนที่ผมทำงานด้วย แคร์คนที่ดูงานเรา อาจจะจับต้องยากหน่อย แต่ผมรู้สึกว่ามันเหมือนคนดูเขาเซนส์ได้ เพราะงานฉาบฉวยผมว่ามันดูออกนะ ผมค่อนข้าง ซีเรียสตรงนี้ จะนึกถึงคนที่จะเข้ามาเสพงานเรา

จริงๆ ผมไม่ได้มีมอตโตอะไรจริงจังกับชีวิตมาก ผมเชื่อว่าสิ่งที่พาผมมาได้ไกลในชีวิตนี้ก็คือการกลับไปใช้ตรรกะ 1+1 ยังไงก็คือ 2 มันไม่มีออปชั่นอื่น ถ้าเราดูดีๆ ชีวิตเรามักจะมีแค่ให้เลี้ยวซ้ายกับเลี้ยวขวา คือ Keep it Simple คิดให้ง่ายอีกนั่นแหละ เพราะสุดท้ายแล้วทางเลือกมันไม่ได้มีให้เลือกเยอะหรอก แต่บางทีคนเราคิดเยอะ สับสน เพราะผมก็เคยเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ พอเราแก้ไขก็เห็นว่า พอคิดให้มันง่าย ชีวิตมันก็ง่ายขึ้น จริงๆ (ยิ้ม)"

 

ขอบคุณภาพจาก Facebook Ananda Everingham

...........................................................................................................................................................

ติดตามทุกเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชาย รวบรวมข้อมูลเรื่อง แฟชั่นผู้ชาย ทรงผมผู้ชาย น้ำหอมผู้ชาย
พร้อมด้วยหลากหลายบทความเกี่ยวกับ สุขภาพ สาวสวย และที่เที่ยวกลางคืนได้ที่นี่

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ คิดให้ง่าย ชีวิตก็ง่าย ในแบบ อนันดา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook