คิด คณชัย เบญจรงคกุล ลูกชายเจ้าสัว "บุญชัย" ยึดงานช่างภาพเลี้ยงตัวเอง

คิด คณชัย เบญจรงคกุล ลูกชายเจ้าสัว "บุญชัย" ยึดงานช่างภาพเลี้ยงตัวเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในแวดวงเซเลบไฮโซ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก "คิด-คณชัย เบญจรงคกุล" ช่างภาพแฟชั่นอนาคตไกล ลูกชายคนโตเจ้าสัวใหญ่ "บุญชัย เบญจรงคกุล" นักธุรกิจโทรคมนาคม เศรษฐีหมื่นล้านของประเทศ

คิด คณชัย ชายหนุ่มหน้าละอ่อนวัยเบญจเพส โดดเด่นด้วยบุคลิกอ่อนน้อม เป็นกันเอง เล่าถึงเรื่องราวในชีวิตที่กำลังพยายามเดินตามความฝันเพื่อยึดอาชีพ "ช่างภาพ" เลี้ยงตัวเอง หลังจากที่เรียนจบสถาปัตย์จาก Architectural Association แห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

หลายคนมักจำภาพคิดจากภาพข่าวสังคม หรือภาพจากอินสตาแกรมของตัวเขาเอง ในลุกปาร์ตี้แมน เนี้ยบ มีฟอร์ม และเข้าถึงตัวยาก แต่ในความเป็นจริงคิดบอกว่า ภาพที่ออกไปนั้นมีทั้งเหมือนและไม่เหมือนตัวตนจริง ๆ ของเขา

สิ่งที่เหมือนก็คือในเรื่องของการแต่งตัว เขาเป็นคนชอบแฟชั่น และรักงานศิลปะ ดังนั้นจึงไม่แปลกหากเขาจะรักการแต่งตัวไปด้วย ยิ่งในยามที่ไปงานสำคัญ การแต่งตัวให้สุภาพนั้นย่อมเป็นการให้เกียรติเจ้าของงานและสถานที่ แต่ในยามรีแลกซ์เขาก็จะแต่งตัวอย่างสนุกสุดเหวี่ยงเช่นกัน ไม่ว่าจะสีส้ม กางเกงสีเขียว ก็ไม่มีหวั่น

ด้านนิสัยใจคอ คิดเอ่ยออกมาเองว่า "แท้จริงแล้ว คิดเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ และค่อนข้างจะขี้อาย แต่หากต้องทำงานหรืออยู่ต่อหน้ากล้องก็สามารถสร้างความมั่นใจให้ตนเองได้เช่นกัน ยามที่อยู่ในหมู่เพื่อนฝูง คิดก็จะเป็นคนกลางคอยเชื่อมทุกคนเข้าด้วยกัน"

หนุ่มมาดเซอร์คนนี้จึงมาพร้อมกับมีคำพูดประจำตัวที่ว่า"ยังไงก็ได้"

"เวลาไปเที่ยว เพื่อนชอบบอกว่าคิดเป็นคนชิล อยู่ง่ายกินง่าย คือคิดเป็นคนชอบทานครับ ที่บ้านเป็นเหมือนกันหมด ทานได้ตั้งแต่ข้างถนนยันมิชลินสตาร์ เพราะฉะนั้นเวลาไปออกทริปกับเพื่อน ๆ คิดก็จะเป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องอาหารการกิน ชอบมากถึงขนาดเคยคิดว่าถ้าไม่เลือกเรียนสถาปัตย์ยังอยากจะเรียนเชฟ ตอนที่อยู่อังกฤษคิดก็ทำอาหารทานเอง ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารฝรั่งครับ เห็นตอนนี้หุ่นอย่างนี้ เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ คิดอ้วนมากนะ จนมีรุ่นพี่ที่เป็นฝรั่งเขาต่อว่า คิดเลยหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งวิ่ง ทั้งเข้าฟิตเนส"

ในหนึ่งวัน ชีวิตของคิด คณชัย มักเริ่มต้นขึ้น ณ ช่วงสาย ๆ ของวัน ต่อให้นอนดึกเพียงใด หรือแม้แต่ใกล้รุ่งก็ตาม คิดก็จะไม่ปล่อยให้ตนเองนอนตื่นหลังเที่ยง เพราะเขามักจะบริหารเวลาให้ตนเองได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ใจต้องการ การจัดการชีวิตคือสิ่งที่ถูกสอนจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งนั่นรวมไปถึงการบริหารเงินทองของตนเองด้วย ถึงแม้ครอบครัวจะมีฐานะดี แต่คิดก็ยังถูกปลูกฝังให้รู้จักการใช้เงินอย่างเหมาะสม

"คิดถือว่าตัวเองมีชีวิตที่ดีครับ อยากทานอะไรก็ได้ทาน อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ไป แต่ก็ไม่ใช่ได้ทุกอย่างที่เราอยากจะได้ คือตั้งแต่เด็ก ทั้งคุณพ่อคุณแม่จะสอนให้รู้ว่าอะไรควร-ไม่ควร อะไรจำเป็น-ไม่จำเป็น อะไรคุ้ม-ไม่คุ้ม ในขณะเดียวกัน ท่านก็ยังสอนให้เรารู้จักรอเวลาด้วย ของบางอย่างที่เราอยากได้ ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม เราก็ต้องรู้จักรอ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น"

แต่ถึงอย่างนั้น คิดก็ยังแอบบอกว่ามีเรื่องใหญ่ที่เขามักจะอดใจรอไม่ได้เหมือนกัน นั่นคือการเดินทาง เจ้าตัวบอกว่าในแต่ละปีเขาเดินทางไม่ต่ำกว่า 5-6 ทริป ไม่ว่าจะไปเที่ยวกับครอบครัว กับเพื่อน ไปเยี่ยมเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่อังกฤษ ไปทำงานที่นิวยอร์ก หรือไปเรียนเทกคอร์สถ่ายภาพเพิ่มเติม ในเรื่องนี้คิดมักจะหาข้อสรุปให้กับตนเองได้อย่างรวดเร็วเสมอ หากเพื่อนร่วมทริปตัดสินใจไม่ทัน เขาก็สามารถแพ็กกระเป๋าออกเดินทางท่องโลกกว้างเพียงลำพังได้

"การเดินทางของคิดมีทุกรูปแบบ แต่ถ้าเอาความชอบ คิดเป็นคนชอบทะเล ชอบน้ำ ชอบกีฬาทางน้ำ ล่าสุดนี่ก็เพิ่งกลับมาจากทริปฮาวาย แล้วคิดก็ยังชอบเที่ยวแบบ Local ด้วย และโชคดีที่ตอนเรียนอยู่ลอนดอนก็มีเพื่อนจากหลาย ๆ ชาติมาเรียนในคลาสด้วย พอเวลาเราไปเที่ยวที่ใหม่ ๆ หรือที่ที่ไม่ค่อยมีข้อมูล เพื่อนก็จะช่วยเราได้มาก คิดเป็นคนมีเพื่อนเยอะมาก ทุกคนจะบอกว่าคิดเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่าย"

คิดยังเล่าติดตลกต่อไปว่า บางทีประเด็นการเข้ากับคนอื่นง่ายก็สร้างปัญหาให้กับเขาเหมือนกัน เพราะในบางครั้งจะมีคนเข้ามาสนิทแบบประหลาด ๆ ถึงขนาดเคยมีคนโทรศัพท์มาขอยืมนาฬิกาเรือนหรูไปโชว์ในงาน โดยอ้างว่าติดต่อมาจากห้างดัง คิดก็จัดแจงให้คนรถนำนาฬิกาไปส่งให้ทันที ผลปรากฏว่าคนโทร.มาเป็นมิจฉาชีพ จึงต้องนำเรื่องขึ้นโรงพักตามนาฬิกากลับคืนสู่อ้อมอก หลังจากนั้นเป็นต้นมาคิดจึงระวังตัวเองมากขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนั้นอีก

"ที่สำคัญนาฬิกาเรือนนั้นเป็นของคุณพ่อครับ"คิดกระซิบเบา ๆ

เพราะชีวิตต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ ชีวิตการทำงานของทายาทเจ้าสัวจึงไม่ได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ และเพราะยังไม่อยากเข้าสู่อาณาจักรของพ่อ คิดจึงมีเวลาทุ่มกับสิ่งที่ตัวเองรัก โดยขอยึดอาชีพตากล้องเป็นรายได้หลักหาเลี้ยงชีพ

ถึงแม้คิดจะก้าวเข้ามาในวงการนี้อย่างจริงจังถึง 2 ปีแล้ว ก็ยังถือเป็นน้องใหม่ในวงการถ่ายภาพอยู่ดี เพราะตากล้องระดับพระกาฬของเมืองไทยแต่ละคนนั้นต่างสั่งสมประสบการณ์กันมาหลายสิบปี เขาจึงต้องเรียนรู้อีกมาก

ดังนั้นเมื่อมีเวลาคิดก็จะไปศึกษาหาความรู้ในด้านนี้เพิ่มเติม และยังไปเป็นผู้ช่วยช่างภาพให้กับตากล้องชั้นนำในต่างประเทศด้วย

"ตอนนี้งานหลักก็คือถ่ายภาพนิ่งครับทำเป็นอาชีพเลย คุณพ่อคุณแม่เห็นเราจริงจังท่านก็สนับสนุน คิดทุ่มเทกับตรงนี้มาก ทำงานแล้วมีความสุข ส่วนใหญ่ที่ถ่ายคือการถ่ายภาพพอร์เทรต ภาพแฟชั่นครับ จะค่อนข้างให้ความสำคัญกับการจัดแสง บางคนอาจสงสัยเรื่องค่าตัว ก็คือได้ตามเรตช่างภาพท่านอื่น ๆ ครับ ซึ่งก็สามารถเลี้ยงดูตัวเองได้ในระดับหนึ่ง บางอย่างก็ยอมรับว่ายังต้องใช้เงินส่วนตัวครับ แต่พอคิดมีรายได้จากตรงนี้มา ก็ทำให้คิดได้มองด้วยว่าเราจะทำอย่างไรถึงจะเพิ่มพูนขึ้นจากรายได้ของตัวเอง"

เมื่อถามถึงวิธีที่จะสลัดภาพลักษณ์และคำถามจากคนภายนอกที่ชอบตั้งคำถามในลักษณะที่ว่าบ้านก็มีธุรกิจส่วนตัว จะจริงจังกับงานที่ทำอยู่มากน้อยแค่ไหน

ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มให้กับคำถาม พร้อมเอ่ยขึ้นว่า "ดูจากผลงานแล้วให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่าครับ"

คิด ยอมรับอย่างไม่เขินอายว่า ด้วยชื่อ นามสกุล และแวดวงของเขามีส่วนช่วยส่งเสริมงานในอาชีพช่างภาพอยู่มาก ด้วยคอนเน็กชั่นที่มีอยู่ทำให้มีงานเข้ามาเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็ยังมีแมกาซีนหลายเล่มที่ติดต่อมาโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ประทับใจในผลงานของเขา

มุ่งมั่น ตั้งใจ ทุ่มเทขนาดนี้ ต่อไปคงได้มีช่างภาพฝีมือดีประดับวงการเพิ่มขึ้นอีกคนเป็นแน่แท้

5 ภาพประทับใจ by คิด คณชัย


1. ภาพแรกเป็นที่มัลดีฟส์ คือเพราะเป็นคนชอบทะเล แล้วเป็นครั้งแรกที่ไปมัลดีฟส์ ภาพนี้มันได้ทั้งความรู้สึกที่แฮปปี้ ได้บรรยากาศ แล้วก็สถานที่ นึกถึงตอนที่ตัวเราว่ายน้ำไปอยู่บนทรายตรงนั้น แทบอยากจะเอาหน้าลงไปกลิ้งบนผืนทรายเพราะมันสะอาด ละเอียดนุ่มมาก


2. ภาพนี้ถ่ายที่พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ รัสเซียครับ ตอนนั้นไปถ่ายงานเมื่อสองปีก่อน ถือเป็นสถานที่ที่ประทับใจด้วย ตอนถ่ายคือไม่ต้องรอเวลาเลย ท้องฟ้า เมฆ แสงอะไรก็สวยแบบนี้ แต่นี่คิดเอามาแบ่งครึ่งแล้วก็กลับภาพก่อนแต่งสีเพิ่ม เลยดูแอ็บสแตรกต์หน่อย


3. ภาพที่สามคือทริปล่าสุด ถ่ายที่ฮาวาย เป็นปล่องภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่ คิดชอบเทกซ์เจอร์ของลาวาที่มันแข็งอยู่โดยรอบ ภาพนี้ถ่ายมาจากบนเฮลิคอปเตอร์ ตอนถ่ายรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ตีขึ้นมาเลยครับ ถ่ายในระยะราว ๆ 100 กว่าเมตร ซึ่งไม่ได้เลนส์ซูมอะไรเลย ชอบอะไรที่ค่อนข้างแอดเวนเจอร์อยู่แล้ว ท้าทายดี


4. ส่วนภาพนี้เป็นภาพที่ทำให้รู้จักกับ "พลอย เฌอมาลย์" ตอนทำหนังสือภาพถ่ายของคิดเอง ชอบภาพนี้เพราะโทนสี อารมณ์ ทุกอย่างดูลงตัวแบบที่เราตั้งใจไว้


5. ภาพสุดท้ายนี่ถ่ายจากกล้องโกโปร ในระหว่างเล่นสโนว์บอร์ดที่ญี่ปุ่น แล้วที่นั่นเขาก็มีการให้โพสต์ภาพแล้วก็แฮชแท็ก เราก็แฮชแท็กเล่น ๆ สนุก ๆ โดยที่ไม่ได้คิดอะไร ปรากฏว่าภาพนี้กลายเป็นภาพที่คนชอบที่สุด แล้วก็ได้รางวัลเป็นบอร์ดฟรีครับ เขากำลังจะส่งรางวัลมาให้ครับ (ยิ้ม)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook