ผู้ชายคนนี้ กำลังหมดไฟ แนะนำ 4 วิธีหาทางออกเติมไฟให้ชีวิต

ผู้ชายคนนี้ กำลังหมดไฟ แนะนำ 4 วิธีหาทางออกเติมไฟให้ชีวิต

ผู้ชายคนนี้ กำลังหมดไฟ แนะนำ 4 วิธีหาทางออกเติมไฟให้ชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

‘พอแล้ว’ ‘เบื่อไม่อยากทำ’ ‘เทงานไปเลยดีกว่า’ เชื่อว่าความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกที่คนทำงานจำนวนมากต้องเคยรู้สึกมาบ้าง ภาวะดังกล่าว เป็นภาวะที่กำลังบ่งบอกว่า คุณกำลังหมดไฟ (Burnout) เกิดความเหนื่อยล้าอย่างยิ่งยวด จนไม่อาจทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงอาจทำให้สูญเสียสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวประจำวันได้เช่นกัน

โดยทั่วไปแล้ว สภาวะหมดไฟมักเกิดขึ้นจากความผิดหวังของเรา ผิดหวังจากคนรอบข้าง การที่รอบตัวเต็มไปด้วยเรื่องแย่ๆ ไม่มีเรื่องใดๆ ให้รู้สึกภูมิใจ หรือสนุกเสียเลย ถ้าหากคุณกำลังรู้สึกเช่นนี้ บอกเลยว่า คุณกำลังหมดไฟแล้วล่ะ ซึ่งการที่เรารู้สึกหมดไฟ ไม่อยากทำอะไร ย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ จำต้องรีบ แก้ไข’ มันเสียแต่เนิ่นๆ

แล้ววิธีการใดเล่า ที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้?

ออกเดินทาง

youngmantraveleriStockphotoแบกเป้ออกเดินทาง

หลายครั้งการที่ทำให้เราหมดไฟก็มาจากการที่เราถูกผูกติดกับสถานที่เดิมๆ และจำเจมากเกินไป ดังนั้นแล้วการรีบสะสางงานทุกอย่างให้เสร็จสิ้น แล้วเริ่มต้นแพ็คกระเป๋าออกเดินทางไปยังต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีเช่นกัน เพราะการเริ่มต้นออกเดินทาง ทำให้เราได้พบเจอสิ่งใหม่ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ

ทว่าถ้าหากชั่วโมงนั้น ทุนทรัพย์ที่เรามีไม่มากนัก ก็ยังมีทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเส้นทางกลับบ้าน การออกไปขับรถเล่น แวะพักผ่อนในสวนสาธารณะ ก็ช่วยทำให้เราลดภาวะหมดไฟได้ทีเดียว

เสียเหงื่อให้กีฬา

therockThe Rockฟิตร่างกายก็ช่วยแก้ปัญหาหมดไฟได้

บางครั้ง บางที การนั่งจมปลักกับงานที่เรารู้สึกแย่ และทำให้เรารู้สึกหมดไฟ ครั้นจะทู่ซี้ทำต่อไปก็คงไม่ใช่เรื่องดีต่อทั้งตัวเราเอง และงานที่อยู่ตรงหน้า การผละตัวเองออกจากงาน แล้วหันไปหารองเท้าวิ่ง หรือการออกไปยกลูกเหล็กในโรงยิม เป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะการออกกำลังกายสามารถลดความเครียด พร้อมขจัดปัญหาที่อยู่ในจิตใจของเราได้เป็นอย่างดี รวมถึงการพักผ่อนให้ร่างกายได้ผ่อนคลายก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะพาตัวเองออกจากสภาวะหมดไฟได้สำเร็จ

พบปะเพื่อนฝูง

speakiStockphotoนัดเจอเพื่อนเพื่อให้ผ่อนคลาย

การหมักหมมความทุกข์ในจิตใจไว้กับตัวเองโดยไม่ได้เปิดใจให้ใครสักคนได้รับฟังไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ทางที่ดีการที่เราเลือกเพื่อนที่เรารู้สึกไว้ใจ และสามารถทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ นับเป็นทางออกที่ดี เพราะการได้เปิดใจระบายสิ่งที่เป็นอยู่ออกมาสู่ภายนอก ทำให้สิ่งที่คาใจถูกปลดปล่อยออกมา

อย่างไรก็ดี การเปิดอกพูดคุยกัน ถ้าหากเป็นปัญหาในที่ทำงาน การเลือกคุยกับเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้าสายตรงของคุณก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เราและเพื่อนร่วมงานของคุณได้ทราบว่า เวลานี้คุณกำลังมีปัญหาในเรื่องใด และนั่นอาจนำมาสู่การแก้ปัญหาในเวลาต่อมา

มองปัญหาให้เป็นเกม

darksoulsDARK SOULS IIIมองปัญหาให้เหมือนกับเล่นเกม

อันที่จริงชีวิตของเราที่วนเวียนอยู่บนโลกใบนี้ ก็เปรียบดั่งกับเกม เพราะในหลายช่วงชีวิตของเราก็จะต้องพบกับเรื่องราวที่สุดแสนจะบู๊ล้างผลาญ (Action) บางครั้งชีวิตก็เหมือนเกมแนววางแผน (Strategic) บางคราวก็ต้องผจญภัย (Adventure) เป็นต้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ควรมองปัญหาที่อยู่เบื้องหน้า เปรียบดั่งมันเป็น Quest หนึ่งของเกม ถ้าเรา เคลียร์’ เกมไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ กด Continue ไปเรื่อยๆ ไม่นานเราก็จะจับจุดการเล่นเกมนั้นๆ ได้เอง

อย่างไรก็ดี แม้มันอาจต้องใช้เวลาสักหน่อย ต้องทนอยู่กับความน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่ถ้าเราสามารถ ‘เคลียร์’ เกมแห่งชีวิตลงได้จริงๆ เมื่อใด ความภาคภูมิใจ มันก็จะตกมาแก่เราเองอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook