จากความมุ่งมั่นที่ไม่เคยย่อท้อ กับเส้นทางชีวิตใหม่ของ ‘ต้น เดอะ วอยซ์’

บทพิสูจน์ความสำเร็จจากความมุ่งมั่นที่ไม่เคยย่อท้อ กับบทเรียนและเส้นทางชีวิตใหม่ของ ‘ต้น เดอะ วอยซ์’

คุณเชื่อไหมว่าการได้มองเห็นรอยยิ้มของคนอื่นเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต...มีคนที่เชื่อแบบนั้นจริงๆ

ต้น-อาดาวาน ฮาบิบซาเดห์ หนุ่มเสียงดีหน้าตาคมเข้ม ที่วิ่งตามความฝันของตัวเองด้วยพลังของหัวใจที่ยิ่งใหญ่โดยไม่เคยย่อท้อ เพียงเพื่อจะได้เห็นความสุขและรอยยิ้มของผู้คนที่ได้อิ่มเอมไปกับเสียงร้องของเขา วันนี้เขาคือนักร้องหนุ่มที่ใครๆ ต่างก็รู้จักเขาในนาม ‘ต้น เดอะ วอยซ์’

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ใครๆ คิด

ต้นเคยผิดหวังอย่างรุนแรงจากการประกวดร้องเพลงงานใหญ่งานหนึ่งสมัยที่เขาอายุ 15 ปี หลังจากนั้นก็ยังต้องผิดหวังจากการเข้าแข่งขันในรายการ The Voice Thailand Season 3 แต่แทนที่ต้นจะมัวแต่เศร้า เสียใจ ท้อแท้ หรือหมดกำลังใจ ต้นกลับลุกขึ้นมาตั้งใจฝึกฝนอย่างหนักเพื่อไล่ตามความฝันของตัวเองที่ต้องการจะเป็นนักร้องและสร้างความสุขให้กับผู้คนผ่านเสียงเพลง เขาตัดสินใจเข้าประกวดอีกครั้งใน The Voice Thailand Season 4 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการแจ้งเกิดในฐานะ ‘ต้น เดอะ วอยซ์’ แบบเต็มตัว

“ผมตัดสินใจประกวด เดอะ วอยซ์ ครั้งที่ 4 อีกปี และวินาทีที่กรรมการทุกคนหันเก้าอี้กลับมาเลือกผม ถือเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตของจริง” นี่คือความรู้สึกของต้นในวินาทีที่รู้ว่าเสียงร้องของเขาสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจของคณะกรรมการได้แบบไร้ข้อกังขา

หลังจากนั้น ‘ต้น เดอะ วอยซ์’ ก็พกพาความมั่นใจไปร้องเพลงบนเวทีต่างๆ ในฐานะนักร้องมืออาชีพ ควบคู่กับการเรียนรัฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปด้วย ต่อด้วยการเข้าไปฝึกงานที่สถานกงศุลประจำประเทศเยอรมนี ก่อนจะมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต เมื่อเขาได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย

ต้นได้มีโอกาสเข้าประกวดและร่วมงานกับ SCB CARE TEAM โครงการที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความห่วงใยให้กับคนอื่น เพื่อแลกกับความสุขและรอยยิ้มที่มิอาจประเมินค่าได้จากลูกค้า จุดมุ่งหมายของ SCB CARE มีความเชื่อมโยงกับบุคลิกและลักษณะนิสัยของต้นที่รักที่จะสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนรอบข้างมาโดยตลอด

“ทันทีที่มีเพื่อนแนะนำให้ผมสมัคร SCB CARE TEAM ซึ่งมีลักษณะงานคล้ายกับการเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คอยดูแลลูกค้า ซึ่งผมคิดว่าทางธนาคารน่าจะต้องการคนที่มีบุคลิกและตัวตนเด่นชัด และผมมั่นใจว่าผมมีคุณสมบัติดังกล่าว จึงลงสมัครทันที”

เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา ต้นจะเลือกทำในสิ่งที่เขารัก และจะตั้งใจทำอย่างสุดตัวทุกครั้ง เพราะการที่ต้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ SCB CARE TEAM ก็เหมือนการที่เขาได้ทำหน้าที่ทูต ซึ่งเป็นความฝันดั้งเดิมที่เขาเคยตั้งเป้าเอาไว้เมื่อครั้งสอบเข้าคณะรัฐศาสตร์ ต้นจึงรู้สึกว่าเขาได้พบกับความสุขและเจอความชัดเจนในเส้นทางชีวิตของตัวเอง

“ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด และจะเป็นทุกอย่างเพื่อลูกค้า SCB ในฐานะด่านแรกที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจและพูดคุยกับผมได้ทุกเรื่องอย่างอุ่นใจ ผมรับรองว่าจะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง” ต้นกล่าวทิ้งท้าย