“แหลม ศรีสะเกษ” จากคนเก็บขยะ เงินไม่มีติดกระเป๋า สู่แชมป์โลกคนล่าสุดของไทย

“แหลม ศรีสะเกษ” จากคนเก็บขยะ เงินไม่มีติดกระเป๋า สู่แชมป์โลกคนล่าสุดของไทย

“แหลม ศรีสะเกษ” จากคนเก็บขยะ เงินไม่มีติดกระเป๋า สู่แชมป์โลกคนล่าสุดของไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงไม่กี่วันมานี้ชื่อ “แหลม ศรีสะเกษ” นักมวยชาวไทยกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก เพราะเขาคือแชมป์ WBC คนล่าสุดที่สามารถโค่นนักชกที่ดีที่สุดของโลกอย่างโรมัน กอนซาเลช ลงได้แบบช็อคคนทั้งโลก เพราะชื่อชั้นในวงการมวยเรียกว่าเป็นรองหลายขุม

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ ชีวิตนอกสังเวียนของ “เจ้าแหลม” ไม่ได้สวยงาม เพราะเขาต้องต่อสู้ ดิ้นรน แลกหมัดกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ไม่แพ้การแข่งขันบนสังเวียนในฐานะนักมวย วันนี้ Sanook! Men จะมาเปิดเผยเรื่องราวชีวิต และความรักจากปากวีรบุรุษแชมป์โลกกันให้เห็นในทุกๆมุมกันเลย

 

เริ่มชกมวยตั้งแต่อายุ   11

เจ้าแหลม ไม่ได้มีชื่อเล่นมาตั้งแต่เด็กว่าแหลม เพราะชื่อเล่นที่คุณพ่อ คุณแม่ตั้งให้คือ “ตั้ม” แต่เพื่อนๆ ของเขากลับเรียกเขาว่า “แหลม” จนกลายเป็นฉายามาจนถึงปัจจุบัน ส่วนความรู้สึกอยากเป็นนักมวยของเขาน่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากครอบครัวที่มีคุณปู่ คุณอา และคุณพ่อที่เป็นนักมวย

โดยเส้นทางวีรบุรุษแชมป์โลกคนนี้เริ่มต้นจากการชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 11 ปี ที่ตอนแรกยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่อยากชกเปรียบรุ่นกับนักมวยที่ตั้งใจมาเปรียบรุ่นถึงที่บ้าน แต่เมื่อคิดไปคิดมาใจเริ่มฮึดสู้

“ตอนนั้นมีนักมวยมาเปรียบรุ่นที่บ้าน ผมก็วิ่งหนีขึ้นบ้าน พ่อเรียกให้ลงมาต่อย ผมก็ไม่ลงมา จนเขากลับไป จึงลงมา วันต่อมาผมก็คิดว่าผมจะต่อยมวยดีกว่า เลยไปขอให้คนที่มาขอเปรียบมวยเมื่อวานกลับมาต่อยกับผม พอผมต่อยผมชนะน็อคเลย”

 

กำลังใจที่อยู่เคียงข้าง

เส้นทางมวยไทยของเจ้าแหลมไม่ประสบความสำเร็จนัก ต่อมาเขาจึงตัดสินใจเดินทางเข้ามาเสี่ยงโชคในกรุงเทพฯ พร้อมแฟนสาว ทำให้แหลมต้องหางานทำควบคู่ไปกับการชกมวย ซึ่งเปลี่ยนมาสู่เส้นทางมวยสากล

“ตอนนั้นเราขึ้นรถไฟมากับแฟน ตอนแรกแฟนผมไม่รู้ว่าผมเป็นนักมวย เพราะเขาไม่ชอบนักมวย ก็เลยบอกเค้าว่าผมเป็นนักมวย เราสองคนไม่มีตังค์ แถมทำตั๋วรถไฟหล่น เลยบอกแฟนว่าไม่เป็นไร ให้ทำเหมือนเป็นคนที่ตรวจตั๋วแล้ว พอนายตรวจเดินผ่านไปก็รอด เหลือเงิน 20 บาทขึ้นรถเมล์ไปบางนา เดินจากบางนาไปสำโรงเพื่อสมัครงาน แต่ก็ไม่ได้งาน เดินจากสำโรงมาเซ็นทรัล บางนา ไปสมัครเป็นรปภ. ทำได้แค่ 1 ปี ก็เปลี่ยนงานเพราะไม่ไหว ไปสมัครเป็นพนักงานเก็บขยะและชกมวยไปด้วย”

 

ช่วงเวลานั้นชีวิตของเจ้าแหลมค่อนข้างลำบาก ถึงขนาดต้องเก็บอาหารหมดอายุที่ทิ้งแล้วมาทำกับข้าวทานกับภรรยา ผู้หญิงที่เคียงข้างเขาเสมอไม่ว่าจะยากดีมีจน

แฟนสาวของเจ้าแหลมเป็นผู้หญิงที่รักและดูแลให้กำลังใจแชมป์โลกของเรามาตลอด เจ้าแหลมเล่าว่าเธอเป็นฝ่ายมาจีบเขาก่อน เมื่อคบกันเป็นแฟนก็ประทับใจในความรักที่เธอมอบให้  “ผมไม่มีตังค์ เขาก็อยู่กับผมได้ จะมีกินไม่มีกินเขาก็อยู่เคียงข้างผมตลอด รู้สึกดีใจมากที่เขายังอยู่กับเราไม่ไปไหน”

มีบ้างที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน แต่แชมป์โลกหมัดหนักอย่างเจ้าแหลมมักเป็นฝ่ายง้อ ซึ่งฝ่ายหญิงก็ให้อภัย คอยให้กำลังใจและบอกว่าอย่ายอมแพ้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ชีวิตตกต่ำ

 

เกือบหมดหวังเพราะอาชีพนักมวย

ในระหว่างที่ทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะไปพร้อมกับชกมวยด้วยนั้น พี่ที่รู้จักกับเจ้าแหลมชักชวนให้เขาไปชกมวยต่างประเทศ เจ้าแหลมจึงสนใจเพราะอยากได้เงิน แต่การเดินทางไปชกมวยต่างประเทศครั้งนั้นเกือบทำให้เจ้าแหลมคิดแขวนนวมและหันไปทำอาชีพอื่นแทน

“ตอนนั้นมีพี่คนหนึ่งชวนไปชกมวยต่างประเทศ ผมสนใจเพราะมันได้เงิน และได้ไปเที่ยว แต่พอไปต่อย 3 ครั้ง ผลแพ้หมด เพราะเราไม่ได้จริงจังเท่าไร ตอนนั้นคิดแค่อยากหาเงินอย่างเดียว จนไฟลท์สุดท้ายที่ผมต่อยมวยสากล ผมคิดว่าถ้าผมแพ้ ผมจะไม่ต่อยมวยแล้ว พอดีผมต่อยเสมอ ก็เลยดีใจ เราไม่ได้แพ้ ทำให้มีกำลังใจ เลยคิดสู้ต่อ”

เมื่อกำลังใจเริ่มมา เจ้าแหลมก็หมั่นและขยันฝึกซ้อม พร้อมทั้งย้ายไปอยู่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น ซึ่งนำพาเขามาสู่เส้นทางแชมป์โลกในวันนี้ได้อย่างภาคภูมิ

 

อย่าท้อ ขยัน มีวินัย

เป็นที่ทราบกันดีว่าการส่งเจ้าแหลมเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลก WBC ครั้งนี้ถือว่าเจ้าแหลมเป็นรองนักชกที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด พูดง่ายๆ คือเหมือนส่งเจ้าแหลมไปเพื่อเป็นผู้แพ้ แต่เพราะฝีมือ ความมุ่งมั่น สมาธิ ใจสู้ของเจ้าแหลมทำให้เขาสามารถคว้าเข็มขัดแชมป์โลกมาครองได้สำเร็จ

“คนคิดว่าผมต้องแพ้ แต่ผมเอาความรู้สึกนั้นมาขยันซ้อม ขยันวิ่ง ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ผมคิดแบบนั้น แม้อัตราต่อรองบนเวทีฝั่งผมจะต่ำ แต่ผมก็คิดว่าบนเวทีมันมีอยู่แค่  3 คน ผม คู่ชก และกรรมการ ผมคิดอย่างเดียวว่าผมต้องต่อยให้ชนะ จนชกเสร็จ ผมมั่นใจว่าผมชนะ เพราะทุกยกผมต่อยไม่หยุด พอประกาศว่าผมชนะ ผมรู้สึกดีใจมาก มันยิ่งใหญ่มาก เราสามารถทำได้ เราเอาเข็มขัดเส้นเดิมของเรากลับมาให้คนไทยชื่นชมได้อีกครั้ง มันกลับมาอยู่กับเราแล้ว”

เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกฝากทิ้งท้ายให้กำลังใจกับนักมวยรุ่นน้องว่า “ถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องไม่ท้อ ขยัน มีวินัยและตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด”

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ “แหลม ศรีสะเกษ” จากคนเก็บขยะ เงินไม่มีติดกระเป๋า สู่แชมป์โลกคนล่าสุดของไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook