เปิดใจ แมท ปภาวิน หนุ่มโดนล้อแก้วหน้าม้า ศัลยกรรมจนหล่อมาก

เรื่องรูปร่างหน้าตาสำหรับผู้ชายบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เหมือนผู้หญิงที่ให้ความสำคัญในส่วนนี้มากกว่า แต่หากคุณเกิดมามีฟันที่ยืนออกมามากผิดปกติ ชีวิตผูกติดกับการโดนล้อเรื่องนี้มาตั้งแต่จำความได้ เชื่อว่าคุณคงอยากจะเปลี่ยนตัวเองใหม่โดยตัดส่วนที่สร้างความทุกข์ใจนี้ออกไป

คุณ แมท ปภาวิน เป็นชายหนุ่มผู้โชคร้ายคนนั้น เขาโดนดูถูกจนไม่อยากมีสังคมกับใคร ไปสมัครงานก็โดนปฏิเสธมาตลอด วันนี้เขาได้รับโอกาสสุดพิเศษเพราะถึงแม้จะไม่ได้รับเลือกไปศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี แต่เขาก็ได้รับโอกาสจากรายการ Let Me In Thailand 2 โดยศัลยกรรมเปลี่ยนตัวเองใหม่โดยทีมแพทย์ผู้เชียวชาญจากประเทศไทย

ทั้งนี้หนุ่มแมท เปลี่ยนแปลงตัวเองหลายอย่าง อาทิ ทำฟันและปรับขากรรไกร, เสริมจมูกพร้อมปรับรูปหน้า จนมีใบหน้าที่หล่อขึ้นอย่างเหลือเชื่อ โดยแมทให้สัมภาษณ์กับทีมงาน Sanook! Men ว่า ความผิดของตัวเองเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อครั้งยังเด็กๆ โดยตอนนั้นเขาชอบดูดนิ้วและเอามือดันกระดูกเล่น กินเวลายาวนานถึง 8 ปี จนมาเลิกดูดนิ้วก็เมื่อตอนที่ครอบครัวขู่จะส่งตัวให้ไปอยู่กับคุณย่า

คุณแมทเล่าต่อว่า ตอนนั้นครอบครัวก็เห็นความผิดปกติ จึงพาตัวไปปรึกษาแพทย์เพราะต้องการจะจัดฟัน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้จัดฟันซะที จนเมื่อจะเข้าศึกษาต่อมหาวิทยาลัยหนุ่มแมทอยากจะจัดฟันและรักษาอาการผิดปกติในช่องปากอีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาได้เข้าไปขอคำปรึกษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น โดยค่าผ่าตัดสามารถใช้บัตร 30 บาทได้ แต่ค่าอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ตอนนั้นค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราว 4 แสนบาท เมื่อตัวเลขค่าใช่จ่ายค่อนข้างสูงโครงการที่จะรักษาจึงถูกพับเก็บไว้อีกครั้ง

เมื่อเห็นรายการ Let Me In Thailand 2 ประกาศรับสมัคร หนุ่มแมทจึงสมัครเข้าร่วมโครงการจนได้รับคัดเลือกในที่สุด จากคำล้อเลียนว่า แก้วหน้าม้า ไอ้จอบ ตอนนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว ชีวิตที่เหมือนเกิดใหม่อีกครั้งทำให้หนุ่มแมทกล่าวว่ายังไม่ค่อยชินกับใบหน้าใหม่ เพราเมื่อก่อนส่องกระจกก็จะเห็นฟันที่ยื่นออกมาตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว

จากที่เมื่ออดีตต้องหลบสายตาผู้คน ตอนนี้เขามีความมั่นใจมากขึ้น กล้าพูด กล้าแสดงออก จนตามฝันเป็นแอร์กราวน์ โดยตอนนี้แมทฝึกภาษา พร้อมเรียนแกรมเพิ่มเติม เพื่อให้ฝันของตัวเองเป็นจริง สำหรับเส้นทางสายบันเทิงที่หลายคนเชียร์ให้หนุ่มคนนี้ชิงลางดูสักครั้ง เขาบอกว่า ตอนนี้ขอมุ่งตามฝันได้ทำงานเป็นแอร์กราวน์ก่อนเรื่องอื่นยังไม่ได้คิด

ต้องบอกว่าจากความทุกข์ใจของตัวเองและครอบครัว วันนี้หนุ่มคนนี้ได้ทำลายกำแพงของตัวเองได้สำเร็จ เขาพร้อมเดินหน้าอย่างมั่นใจอีกครั้ง โดยมีครอบครัวเป็นกำลังใจให้เช่นเคย