คุมอาหาร+ออกกำลังกาย เปลี่ยนน้ำหนัก 142 ให้เป็น 88

คุมอาหาร+ออกกำลังกาย เปลี่ยนน้ำหนัก 142 ให้เป็น 88

คุมอาหาร+ออกกำลังกาย เปลี่ยนน้ำหนัก 142 ให้เป็น 88
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น้ำหนักตัวที่มากไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจัง อย่างคุณอาร์ม ที่สมัยก่อนเคยหนักถึง 142 กิโลกรัม ตอนนี้เขาหันมากออกกำลังกาย พร้อมกับควบคุมอาหาร เชื่อไหมครับ 2 อย่างหลักๆ ทำให้หนุ่มอ้วน คนนี้กลายเป็นคนใหม่ที่ดูดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น ที่สำคัญตอนนี้น้ำหนักก็ลดลงไปอยู่ที่ 88 กิโลกรัม ทั้งนี้กว่าจะมีวันนี้ก็ต้องใช้ความพยายามมากทีเดียว

คุณอาร์มทำได้ยังไงไปติดตามกันเลยครับ!

สวัสดีครับก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ (ใช้คำไม่ถูกต้องขออภัยด้วย) ชื่อ อาร์มครับ อายุ 23 ปี หนัก 142 กิโล สูง 182 เซ็นติเมตร เพื่อนๆชอบเรียก หมี 555555 ตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่ต้องการลดความอ้วนทุกคน ที่จริงจะให้ถึง 77 กิโลก่อนถึงมาตั้งกระทู้ครับ แต่เพื่อนๆ อยากให้เอามาลงเพื่อแชร์ประสบการณ์การลดความอ้วน ดูรูปตอนอ้วนกันก่อนแล้วกันนะครับ

เสื้อผ้ารัดไปหมด ^^

หมูกระทะบุฟเฟ่ต์ของโปรด

เห็นรูปแล้วเป็นยังไงบ้างครับ สำหรับเพื่อนๆคงคิดว่าอ้วนมาก แต่สำหรับผมในตอนนั้นคือปกติมากครับ 5555 เพราะหลอกตัวเองมาตลอดว่า อ้วนแล้วไง เรามีความสุขอ่ะ ผมมีความสุขกับการกินมาก เป็นคนกินได้ทุกอย่าง เรียกง่ายๆว่าเป็นคนเลี้ยงง่ายครับ 555 มีอะไรก็กินหมด อาหารที่ไม่ชอบกินมีมั๊ย ?? คำตอบคือ ไม่มีครับ ยิ่งพวกอาหารที่เป็นบุฟเฟ่ต์ เพื่อนคนไหนอยากกินให้คุ้มต้องชวนผมไปกินด้วยทุกครั้ง ยิ่งผมเป็นคนชอบนอนดึก แน่นอนครับว่า มื้อดึกพลาดไม่ได้เลย 7-11 ก็อยู่ใกล้บ้าน ชีวิตในการกินมันชั่งมีความสุขจริงๆ และเพราะพฤติกรรมการกินของผมนี่เองที่เป็นที่มาของน้ำหนัก 142 กิโลกรัม

ต่อไปเป็นรูปที่ผมเริ่มลดน้ำหนักนะครับ รูปอาจจะไม่ค่อยเยอะ เพราะไม่ค่อยได้ถ่าย (รูปอาจจะใหญ่บ้าง เล็กบ้างนะครับ)

รูปนี้เริ่มลดได้ประมาณ 1 เดือนครับ ลงมาที่ 135 กิโล

ลงมา 2 หลักแล้ว ตอนนั้นดีใจมากครับ

ให้ดูรูปเปรียบเทียบตั้งแต่ตอนก่อนลดจนถึงปัจจุบัน

ยังอ้วนอยู่นะครับ แต่เพราะเป็นคนสูงเลยดูสมส่วน แต่ตั้งเป้าหมายไว้ให้เหลือ 77 กิโล

ต่อไปเป็นวิธีการลดนะครับ มีแค่ 2 วิธี คือการ ควบคุมอาหาร + ออกกำลังกาย ครับ

อาหาร

การควบคุมอาหารของผมก็คือการกินอาหารคลีนนั่นเองครับ งดของทอด ของมัน ของหวาน โดยระยะแรก ผมจะค่อยๆปรับวิธีการกินของผม เพราะเท่าที่ผมอ่านดูคนที่รีวิวการลดน้ำหนัก เน้นกินแบบว่าคนปกติอาจจะไม่ชอบกิน ผมเลยเริ่มจากการการปรับเรื่องโภชนาการ ต้องเข้าใจในเรื่องพลังงานก่อนนะครับ (แคลลอรี่) เพื่อนๆหาอ่านได้ใน google เลย เช่น ผมกินข้าวมันไก่ จากข้าวมันไก่ปกติ ผมแค่สั่งไม่เอาหนัง จากข้าวมันก็เป็นข้าวสวยธรรมดา หรือเป็นไปได้กินพวกข้าวขัดสี ข้าวกล้อง เป็นต้น หาซื้อได้ทั่วไปครับ แค่นี้ก็ไม่อ้วนแล้วครับ เพราะตัวอ้วนมันอยู่ที่ข้าวมัน อย่างที่ผมบอกไปข้างต้น ของทอด ของมัน ของหวาน พวกนี้ให้พลังงานสูงมาก หรืออีกตัวอย่างในการเลือกกินนะครับ ถ้าอยากกินก๋วยเตี๋ยว ก็แค่สั่งเขาไม่ใส่กระเทียมเจียว แค่นั้นเองครับ นี่คือระยะเริ่มแรกในการควบคุมอาหารของผมนะครับ คือกินปกติ แค่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยแค่นั้นเอง

ระยะที่สอง ผมเริ่มสนใจเรื่องโภชนาการมากขึ้นโดยหาข้อมูลได้จาก google อย่างเช่น การกินโปรตีน การกินแป้ง หรือ วิตามิน บลาๆ มีผลอย่างไรต่อร่างกายบ้าง ผมจึงเข้าสู่โหมดควบคุมอาหารอย่างจริงจัง โดยการทำอาหารกินเอง เพราะการทำอาหารกินเองสามารถควบคุมปริมาณของวัตถุดิบต่างๆได้ เช่นน้ำตาล น้ำมัน อื่นๆ ผมจะยกตัวอย่างเมนูที่ผมทำกินนะครับ กะเพราอกไก่ เพราะอกไก่เป็นส่วนที่มีไขมันน้อยที่สุด ใช้น้ำผัดแทนน้ำมัน ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ผงชูรส ที่เหลือก็ปรุงปกติ เป็นต้นครับ ถามว่าปริมาณในแต่ละมื้อเยอะมั๊ย ถ้าเข้าใจในเรื่องของแคลลอรี่แล้ว จะเข้าใจว่าแต่ละคนมีกิจกรรมในแต่ละวันที่แตกต่างกัน ไม่สามารถระบุได้ว่าต้องกินกี่กรัมๆ อยากให้เพื่อนๆดูกิจกรรมที่เราใช้ในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้าง ถ้าได้เคลื่อนไหวร่างกายตลอดเวลา แต่กินในปริมาณที่น้อย พลังงานก็ไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิต ก็จะเกิดอาการ หน้ามืด เป็นต้น เพราะฉะนั้นกินแต่พอเหมาะ ยกตัวอย่างตัวผม กินต่อมื้อคือ ข้าวกล้อง 7-11 หนึ่งถ้วย เนื้อสัตว์หรือโปรตีนประมาณ 150 กรัม กะๆ ผัก ผลไม้เยอะๆ เป็นต้น

ตอนเย็นกินไหม ?? คำตอบคือ ผมกินพวกเกาเหลา ไก่ย่างไม่ติดหนัง เป็นต้น แต่จะงดแป้งนะครับในช่วงเย็น หรือวันไหนทำกิจกรรมระหว่างวันน้อย ก็จะกินพวกผลไม้ หรือสลัดแทน

ผมจะยกตัวอย่างของการกินใน 1 วันของผมนะครับ

ตื่นเช้ามา ดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว ก่อนกินอาหารเช้าประมาณ 30 นาที (ช่วยระบบขับถ่ายได้ดี)
เมนูเช้า และเที่ยง กินปกติ (ดังที่พูดไปข้างต้นนะครับ)
ระหว่างวันกิน ผลไม้ โยเกิร์ต เป็นต้น
ตอนเย็น เกาเหลา,สลัดผัก,ผลไม้ (งดแป้ง)
ทิ้งท้ายเรื่องการกินนะครับ การกินของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำกิจกรรมไม่เหมือนกัน ชอบกินไม่เหมือนกัน ผมจึงไม่ได้บอกว่าต้องกินอะไรบ้าง แต่ผมบอกวิธีการกินไปหมดแล้ว เพราะถ้าผมบอกเมนูให้เพื่อนๆกินตาม ถ้าเพื่อนๆไม่ชอบกิน มันก็ไม่มีความสุขในการกิน ก็จะท้อ แล้วก็เลิกไป ผมจะยกตัวอย่างการกินของคนปกติที่คิดจะเริ่มจะลดความอ้วน เช่น ต้องกินผักเยอะๆ โดยการกินผัดผัก แต่ลืมคำนึงถึงว่า ในผัดผัก น้ำมันที่เอามาผัดเยอะเลย เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้แหละที่มีผลต่อน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ่น

การออกกำลังกาย
โดยปกติแล้วผมชอบออกกำลังกายอยู่เป็นประจำครับ โดยการเล่นตะกร้อ ฟังไม่ผิดหรอกครับ 5555 ผมเล่นมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ทำไมถึงไม่ผอม ทั้งที่ออกกำลังเป็นประจำ เพราะการกินยังไงละครับ เห็นมั๊ยละครับว่าการกินมันมีผลขนาดไหน ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ออกกำลังกายโดยการเล่นตะกร้อเหมือนตอนที่อ้วนมาก เพิ่มเติมคือการ เดินเร็ว การเดินเร็วเบิร์นได้ทุกส่วนดีมากๆครับ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องวิ่งเลย เพราะผมเองก็ไม่เคยจะไปวิ่ง มีแต่วิ่งเก็บลูกตะกร้อ 555 ถ้าอยู่ที่บ้านผมก็จะเล่นฮูร่าฮูป เป็นต้น เพราะไม่ได้เข้าฟิตเนทเลย แต่ใช้ น้ำหนักตัวในการสร้างกล้ามเนื้อครับ เช่นท่า Plank ซิทอัพ วิดพื้น แหละอื่นๆ หาได้ตามอินเทอร์เน็ตเลยครับ แต่จะเริ่มเข้าฟิตเนทแล้วครับเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ เพราะฉะนั้นแล้วการออกกำลังกาย ขึ้นอยู่กับความชอบหรือความถนัดของแต่ละคน ถ้าเรามีความสุขไปกับมัน เราก็จะทำมันได้นาน แต่ถ้าเราต้องไปเล่นตามคนอื่น เราไม่สนุก เราก็จะท้อ แล้วก็เลิกไป ซึ่งผมจะออกกำลังแค่ช่วงเย็นนะครับ เพราะตอนเช้าตื่นไม่ไหว 555555 เป็นคนติดนอนดึก แก้ไม่หายสักที

ผมอยากฝากถึงทุกคนที่อยากจะลดความอ้วนนะครับ สำหรับคนที่ท้อ คนที่ทำแล้วน้ำหนักไม่ลงสักที อยากให้นึกว่า กว่าเราจะอ้วนมาขนาดนี้เราใช้เวลากี่ปี จะให้ลดวันสองวันมันเป็นไปไม่ได้ครับ การลดน้ำหนักที่ได้ผลที่สุดคือการ ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน หรือส่วนหนึ่งของชีวิตเรา อย่าหนักเกินไป มันทำให้เราท้อ อ๋อ ผมลืมบอก ผมใช้เวลา 10 เดือนแล้วนะครับ ตั้งแต่ ตุลาคม ปี 2558 สู้ๆนะครับสำหรับทุกคน ผมเป็นกำลังใจให้ สำหรับเพื่อนๆที่อยากสอบถาม หรืออยากให้ผมแนะนำอะไรสามารถสอบถามได้เลยนะครับทาง Facebook ตามลิงค์นี้นะครับ ยินดีให้คำแนะนำ เราจะผอมไปด้วยกัน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : pantip.com, Facebook หมี ฉึก ฉึก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook