10 ชิ้นในห้องนอน ที่อาจทำให้คุณเจ็บป่วย

10 ชิ้นในห้องนอน ที่อาจทำให้คุณเจ็บป่วย

10 ชิ้นในห้องนอน ที่อาจทำให้คุณเจ็บป่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภาพจาก http://www.ikea.com

คุณเคยรู้สึกเพลีย นอนหลับไม่เต็มอิ่มหลังตื่นนอน หรือปวดศีรษะในตอนเช้าบ้างหรือเปล่า ถ้าคุณตอบว่า “ใช่”  ไม่แน่ “ห้องนอน” ในบ้าน คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์หรือที่ๆ คุณพักอาศัยอาจเป็นสาเหตุหลักทำให้คุณป่วยหรือมีเกิดอาการเหล่านี้

Sanook! Home จึงจะชวนคุณไปสำรวจดูว่าในห้องนอนที่คุณนอนอยู่ทุกคืนนั้นมีของชิ้นใดบ้างที่เป็นต้นเหตุให้คุณเจ็บป่วย ล้มหมอนนอนเสื่อได้ง่ายๆ

1.หมอนหนุน หลังจากการทำงานที่เหนื่อยล้า คุณอาจรู้สึกผ่อนคลายทันทีเมื่อหัวถึงหมอน โดยคุณหารู้ไม่ว่าหมอนที่คุณนำศีรษะไปสัมผัสนั้นเป็นที่สะสมของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไรฝุ่น ที่อาจนำไปสู่อาการภูมิแพ้ เจ็บคอ หรือปวดศีรษะ วิธีการที่ดีคือหากคุณไม่เคยซักทำความสะอาดหมอนหนุนเลย คุณก็ควรจะเปลี่ยนหมอนหนุนทุกๆ 1 ปี นอกจากนั้นคุณควรเปลี่ยนปลอกหมอนทุกๆ 2-3 วัน แต่หากคุณปวดศีรษะ ปวดคอ ปวดไหล่แสดงว่าหมอนของคุณมีโครงสร้างที่ไม่เหมาะหรือตอบรับกับสรีระของคอและศีรษะของคุณ สปริง โฟมที่อยู่ภายในหมอนอาจจะเสื่อมสภาพการใช้งาน ดังนั้นอาจถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนหมอนได้แล้ว

2.ต้นไม้ที่ปลูกในบ้าน ใครๆ ก็ทราบดีว่าการปลูกต้นไม้ในบ้านเป็นการเพิ่มสีสันช่วยให้อากาศในบ้านบริสุทธิ์สดชื่น แต่คุณอาจลืมนึกไปว่าถ้าคุณรดน้ำต้นไม้มากจนดินที่ปลูกต้นไม้แฉะ ดินที่โคนต้นไม้อาจเป็นที่กำเนิดของเชื้อรา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภูมิแพ้ และโรคหอบหืด วิธีแก้ไขคือพยายามรดน้ำให้ชุ่มชื่นเฉพาะบริเวณผิวหน้าของดิน และอย่าวางกระถางต้นไม้แช่ไว้ในถาดที่มีน้ำขังเพราะมันจะยิ่งทำให้ดินชื้น

 

ภาพจาก http://www.ikea.com/

3.สัตว์เลี้ยง แน่นอนว่าบรรดาสุนัขหรือแมวที่คุณเลี้ยงเป็นสัตว์ที่น่ารักของสมาชิกทุกคนในครอบครัว แต่การที่นำมันไปนอนร่วมเตียงเดียวกับคุณ ขนของมันเต็มไปด้วยสารก่อภูมิแพ้ทั้งเชื้อรา แบคทีเรีย ฝุ่นละอองต่างๆ ที่อาจติดมากับขนของมัน ดังนั้นคุณควรให้เจ้าสี่ขาของคุณนอนบนเตียงส่วนตัวของมัน ไม่มาปะปนกับคุณ

4.เทียน แสงเทียนในห้องนอนช่วยสร้างบรรยากาศอันแสนโรแมนติก แต่ถ้าคุณจุดเทียนบ่อยๆ ในขณะที่คุณนอน เจ้าความโรแมนติกนั้นอาจทำร้ายคุณเพราะพาราฟินซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของเทียนจะปล่อยสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนี้ในขณะที่เทียนเผาไหม้ กลิ่นของมันยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ด้วย ดังนั้นเวลาจุดเทียนคุณจึงควรอยู่ให้ไกลหรือเปิดหน้าต่างหลังจากดับเทียนแล้ว

5.เครื่องดูดฝุ่น เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมและนิยมใช้กันมาก เนื่องจากมันช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานและประหยัดเวลาในการทำความสะอาด แต่หากคุณใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดห้องนอนโดยปราศจากแผ่นกรอง คุณอาจเจ็บป่วยได้เพราะฝุ่นเหล่านั้นแทน ดังนั้นคุณจึงควรเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นชนิดที่มีแผ่นกรองในการทำความสะอาดห้องนอนของคุณ

6.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ทุกคนน่าจะต้องการให้ห้องนอนสะอาดและแวววาวเป็นประกาย แต่มันไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องระคายเคืองระบบหายใจ ระคายเคืองดวงตาไปด้วยผลจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ ที่คุณเลือกใช้ เพราะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหล่านั้นมีสารระเหยที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้ ดังนั้นคุณจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไร้สารเคมี เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติ

7.เครื่องทำความชื้น ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศแห้งมาก บางบ้านอาจซื้อเครื่องทำความชื้นมาติดตั้งไว้ข้างเตียง ดังนั้นคุณควรเปลี่ยนน้ำที่อยู่ภายในอุปกรณ์นั้นทุกวัน รวมถึงทำความสะอาดอุปกรณ์ให้ความชื้นเหล่านั้นด้วย เพื่อทำให้อากาศภายในบริสุทธิ์ (กรณีนี้อาจเป็นเครื่องที่ใช้ในต่างประเทศ ในบ้านเราอาจไม่ค่อยได้ใช้)

ภาพจาก www.istockphoto.com

8.หน้าต่าง หากหน้าต่างห้องนอนของคุณถูกปิดไว้ตลอดเวลา คุณเชื่อหรือไม่ว่าสารเคมี ฝุ่นละอองที่อยู่ภายในห้องนอนของคุณกลับเติบโตได้เร็วกว่าการที่คุณเปิดหน้าต่างให้อากาศหมุนเวียน ดังนั้นคุณควรเปิดหน้าต่างรับอากาศและลมจากภายนอกอย่างสม่ำเสมอ

9.ที่นอน ต้องยอมรับว่าตลอดชีวิตของเรา เราใช้เวลากับการนอนบนเตียงนอนไม่น้อยเลย ดังนั้นร่างกายของคุณจึงได้สัมผัสกับที่นอนอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าเซลล์หลุดลอกจากผิวหนัง เหงื่อไคล ฝุ่นละอองต่างๆ ย่อมสะสมอยู่บนที่นอนของคุณ ดังนั้นคุณจึงควรทำความสะอาดที่นอนของคุณบ้าง และถ้าคุณรู้สึกปวดหลังเมื่อตื่นนอนคุณควรพิจารณาได้แล้วว่า ถึงเวลาเปลี่ยนที่นอนของคุณแล้วหรือยัง เนื่องจากปกติที่นอนจะมีอายุประมาณ 5-10 ปี

10.พรม คุณมักเลือกปูพรมในห้องนอนเพราะมันทำให้เท้าของคุณได้สัมผัสพื้นผิวที่นุ่มสบาย แต่พรมถือเป็นที่สะสมของเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่ายทั้งฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เชื้อรา แบคทีเรีย สิ่งสกปรกต่างๆ ที่ติดมากับเท้าหรือรองเท้าของเรา ดังนั้นคุณควรดูดฝุ่นทำความสะอาดพรมของคุณทุกสัปดาห์ และซักมันทุกๆ สามเดือน และถ้าคุณเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้วการปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตมันจะง่ายและสะดวกในการทำความสะอาดมากกว่าการใช้พรมปูพื้น

เรียบเรียงข้อมูลบางส่วนจาก http://bedroom.about.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook