10 วิธีอัจฉริยะ กำจัดคราบฝังแน่น เอาใจแม่บ้าน

ใครที่ไม่เคยเป็นคนทำงานบ้านคงคิดว่างานบ้านนั้นง่าย และเป็นกิจกรรมที่สนุก เปล่าเลยมันเป็นความเข้าใจผิด เพราะมันเป็นงานจุกจิกแบบที่ว่าผ่านไปแล้วทั้งวันคุณอาจรู้สึกว่าคุณยังไม่ ได้ทำงานบ้านเลยสักอย่าง

ดังนั้นการมีเคล็ดลับในการทำงานบ้านนอกจาก จะช่วยย่นระยะเวลาในการทำความสะอาดบ้านแล้ว ยังจะทำให้คุณมีเวลาเป็นของตัวเองเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย แต่คราวนี้ลองมาดูกันว่า 10 วิธีดูแล ทำความสะอาดคราบสกปรกเหล่านี้เคยผ่านหู ผ่านตาคุณมากันบ้างหรือยัง ถ้ายังลองเลย เพราะมันง่ายจริงๆ ให้ตายเถอะ

ข้อมูลและภาพจาก http://551eastdesign.blogspot.com

1.ขจัดคราบบนหมอนด้วยแอลกอฮอล์ สิ่งที่ต้องใช้มีแอลกอฮอล์ ฟองน้ำสีขาว แปรงสีขาว วิธีการคือฉีดแอลกอฮอล์ลงบนคราบสกปรก จากนั้นใช้ฟองน้ำซับลงบนคราบ คุณจะเห็นว่ามีคราบสกปรกซึมติดมากับฟองน้ำ ถ้าฟองน้ำของคุณสกปรกก่อนภารกิจกำจัดคราบเสร็จสิ้นให้เปลี่ยนใช้ฟองน้ำอันใหม่ ปล่อยให้บริเวณที่ทำความสะอาดแห้ง คุณอาจรู้สึกประหลาดใจที่บริเวณนั้นจะมีสีเข้มกว่าบริเวณอื่น แต่ไม่ต้องตกใจ เพียงคุณใช้แปรงสีขาวที่เตรียมไว้ค่อยๆ ขัดบริเวณที่เป็นคราบ วิธีการเหล่านี้จะทำให้หมอนของคุณสะอาดเหมือนใหม่

2.ทำความสะอาดคราบลึกบนพรมด้วยเตารีด เพียงคุณเตรียมน้ำส้มสายชู น้ำเปล่า ขวดแบบสเปรย์ เศษผ้า และเตารีด วิธีทำคือฉีดน้ำส้มสายชู น้ำเปล่าลงบนเศษผ้า จากนั้นนำเศษผ้าที่มีน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าวางลงบนคราบสกปรกก่อนจะทับด้วยเตารีดที่มีความร้อนแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที ถ้าคราบยังอยู่ให้ทำซ้ำ แต่ถ้าไม่ได้ผลคุณอาจใช้เบกกิ้งโซดา แป้งข้าวโพด น้ำยาล้างจาน น้ำส้มสายชู และน้ำอุ่นเข้ามาช่วย โดยขูดคราบเหล่านั้นออกก่อน จากนั้นโรยผงเบกกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดลงบนรอยเปื้อนแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นผสมน้ำอุ่น น้ำส้มสายชู และน้ำยาล้างจานอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน ก่อนจะใช้ผ้าขาว ฟองน้ำขัดเพื่อขจัดคราบออก และใช้ฟองน้ำชุบน้ำเย็นแล้วขัดออกอีกรอบ ก่อนจะทิ้งไว้ให้เย็น

ข้อมูลและภาพจาก http://www.homemademamas.net

3.ใช้ไดรฟ์เป่าผมกำจัดรอยแก้วน้ำบนพื้น หลังปาร์ตี้คุณอาจเจอรอยแก้วน้ำบนพื้นติดค้างจนดูไม่สวยงาม วิธีการง่ายๆ คือใช้ไดร์ฟเป่าผม ค่อยๆ เป่าลมร้อนเหนือรอยแก้วน้ำบนพื้น ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีร่องรอยนั้นก็จะหายไปทันที

4.กำจัดฝุ่นพัดลมโดยใช้ปลอกหมอน นำปลอกหมอนที่ไม่ได้ใช้แล้วสวมใส่ในใบพัดของพัดลม ถือเป็นการทำความสะอาดพัดลมเพดานที่ง่ายและไม่เป็นอันตราย

ข้อมูลและภาพจาก http://keephomesimple.blogspot.com

5.เมื่อผ้าหรือแปรงไม่สามารถกำจัดคราบสกปรกที่บานเกล็ดได้ การทำความสะอาดบานเกล็ดอาจจะเป็นเรื่องยากลำบากใช้ผ้า หรือแปรงแล้วก็ไม่สะอาด เราคงต้องพึ่งน้ำส้มสายชูผสมน้ำ จากนั้นนำถุงเท้าเก่าชุบน้ำส้มสายชูผสมน้ำแล้วค่อยๆ ไล่ทำความสะอาดบานเกล็ดแต่ละแผ่น จากนั้นก็นำถุงเท้าล้างทำความสะอาด

6.ทำความสะอาดซิงก์ล้างจานในห้องครัว อุปกรณ์ประกอบด้วย สบู่ล้างจาน น้ำส้มสายชู ผงเบกกิ้งโซดา  แปรงสีฟันเก่า ฟองน้ำนุ่มๆ วิธีทำความสะอาดคือโรยผงเบกกิ้งโซดาลงบนผิวซิงก์ จากนั้นวางแผ่นกระดาษที่ชุบน้ำส้มสายชูทับลงไปบนพื้นผิวของซิงก์ล้างจาน ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ก่อนจะดึงกระดาษออก จากนั้นล้างซิงก์ด้วยน้ำสบู่อุ่นๆ สำหรับก๊อกน้ำ และส่วนที่เป็นมือจับให้ใช้แปรงสีฟันขัด โดยใช้น้ำสบู่อ่อนๆ ค่อยๆ ไล่ขัดถูตามซอกต่างๆ เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วให้ล้างและเช็ดให้แห้ง

ข้อมูลและภาพจาก http://cleverlyinspired.blogspot.co.uk

7.ขัดเตาอบด้วยเบกกิ้งโซดา น้ำยาล้างจาน น้ำส้มสายชูและมะนาว ผสมน้ำส้มสายชู ผงเบกกิ้งโซดา และน้ำยาล้างจานเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบของเหลวที่ผสมได้ทาให้ทั่วบริเวณเตาอบแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีก่อนจะขัด ขัด และขัดด้วยมะนาวผ่าครึ่งซีก แล้วเตาอบของคุณก็จะแจ่มแวววาว

8.ใช้แอมโมเนียแล้วไม่ต้องขัด ขาตั้งบนเตาแก๊สที่มีคราบเลอะเทอะ สกปรก เพียงคุณนำแอมโมเนียประมาณ ¼ ถ้วยตวงใส่ลงในถุงซิปล็อคพร้อมกับขาตั้งที่มีคราบสกปรก จากนั้นทิ้งไว้ข้ามคืน ก่อนจะตื่นขึ้นมาแล้วเอาฟองน้ำค่อยๆ เช็ดคราบสกปรกเหล่านั้นออก

9.การทำความสะอาดน้ำมันที่กระเด็นโดนเฟอร์นิเจอร์ ด้วยการหยดน้ำมันแร่จำนวน 2 หยดลงบนกระดาษสำหรับเช็ดทำความสะอาดคราบน้ำมัน จากนั้นมันก็จะสะอาด

ข้อมูลและภาพจาก http://www.wikihow.com

10. ทำความสะอาดหม้อชงกาแฟด้วยน้ำส้มสายชู วิธีการทำความสะอาดหม้อชงกาแฟคือทำหม้อชงกาแฟให้ว่าง เทกากกาแฟออกจากหม้อชง จากนั้นใส่น้ำเปล่าและน้ำส้มสายชูลงไปในหม้อชงแล้วเปิดเครื่องทำกาแฟตามปกติ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม. จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วเช็ดให้แห้ง

ที่มา : http://www.buzzfeed.com