วางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรก
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/hm/0/ud/5/26273/tnhome1622.jpgวางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรก

    วางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้านหลังแรก

    2020-07-16T11:11:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    การซื้อบ้านนับว่าเป็นความฝันของคนวัยทำงานส่วนใหญ่ ที่อยากสร้างพื้นที่เป็นของตนเอง หรือคนในวัยกำลังสร้างครอบครัว ที่ต้องการมีบ้านเพื่อรองรับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะเกิดในอนาคต หากแต่การซื้อบ้านที่หลายคนบอกว่าสมัยนี้เป็นเรื่องง่าย อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการซื้อบ้านหลังแรกนั้นมีเรื่องต้องพิจารณาอย่างน้อยสามอย่าง เพื่อให้คุณได้บ้านที่ถูกใจ และสมดุลกับเงินที่คุณมีอยู่ในกระเป๋า ส่วนรายละเอียดการพิจารณาทั้งสามข้อนั้นมีอะไรบ้าง ติดตามกันได้เลยค่ะ

    คำนวณเงินจ่ายค่าบ้านให้อยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ของรายได้

    การซื้อบ้านหลังแรกนับว่าเป็นการลงทุน และเป็นการสร้างดินแดนของตัวเอง หลายคนเริ่มต้นการซื้อบ้านหลังแรกด้วยความคิดว่าสามารถผ่อนได้แม้ว่าจำนวนเงินที่ผ่อนนั้นจะมีตัวเลขสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมด และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกลายเป็นว่าคุณหมุนเงินไม่ทัน และกลายเป็นคำถามตามมาของหลายคนว่า รายได้เท่านี้ควรซื้อบ้านราคาเท่าไร

    อย่างที่อยู่ในหัวข้อเลยค่ะ คุณควรซื้อบ้านที่คุณต้องผ่อนชำระรายเดือนเป็นจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนจากรายได้

    อาทิ รายได้ของคนในปัจจุบันอยู่ที่ 25,000 บาท เท่ากับคุณสามารถผ่อนบ้านได้ที่ 6,250 บาท ซึ่งเท่ากับว่าคุณจะซื้อบ้านหรือคอนโดในราคาประมาณ 1 ล้านบาท ทั้งนี้การผ่อนจาก 25 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จะทำให้คุณมีเงินเก็บเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และใช้จ่ายในชีวิตประจำวันโดยไม่เดือดร้อน ขณะเดียวกันเมื่อเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันดังเช่นในปัจจุบัน เงินผ่อนบ้านจำนวนนี้คุณเองยังสามารถจะผ่อนต่อได้ไหว ดังนั้นคำนวณให้ดีก่อนที่จะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง ต่อให้คนรอบข้างจะเชียร์อย่างไร ต้องท่องเอาไว้ในใจเสมอว่า เวลาที่คุณเดือดร้อนนั้นไม่ได้มีใครมาช่วยคุณ

    ซื้อบ้านควรมีเงินดาวน์ อย่าซื้อบ้านโดยกู้ธนาคาร 100 เปอร์เซ็นต์เด็ดขาด

    ปัจจุบันนี้การซื้อบ้านสักหลังไม่ใช่เรื่องยาก แต่เรื่องยากคือทำอย่างไรให้บ้านหลังนั้นผ่อนได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะเหล่าบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าหน้าที่สินเชื่อมักขายฝันด้วยการผ่อนดาวน์ หรือไม่ต้องดาวน์ แต่ส่งเรื่องกู้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์หรือมีกู้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์มาเป็นเงินตกแต่ง ช่วงผ่อน 3 ปีแรก อาจเป็นจำนวนเงินที่ผู้ซื้อคิดว่าจะส่งไหว แต่พอขึ้นสู่ปีที่ 4 กลับกลายเป็นว่าจำนวนเงินที่ต้องส่งต่อเดือนสูงขึ้นจนกลายเป็น 60-70 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ จนทำให้ส่งต่อแทบไม่ไหว

    ดังนั้นเมื่อคิดจะซื้อบ้าน การมีเตรียมเงินดาวน์จึงสำคัญมาก และเงินดาวน์นั้นควรไม่น้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของราคาบ้าน เพราะจะทำให้คุณได้รู้ว่าต่อเดือนคุณต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไร และการเก็บเงินดาวน์จะทำให้คุณรู้ว่ารายได้ที่คุณมีอยู่กับรายจ่ายที่เกิดขึ้นจากการผ่อนบ้านที่จะมีในอนาคต คุณจะสามารถรับมือไหวหรือไม่

    เลือกบ้านให้บาลานซ์กับรายได้ที่คุณมีอยู่

    สิ่งสำคัญสำหรับคนที่คิดจะซื้อบ้านหลังแรกไม่ใช่แค่ทำเลอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาถึงขนาดของบ้าน และการเดินทางเมื่อคุณต้องมาใช้ชีวิตอยู่จริง หลายคนอยากได้บ้านมีพื้นที่แต่อาจต้องเดินทางกว่าสองชั่วโมงเพื่อเข้าเมืองมาทำงาน ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่บางคนเลือกที่จะซื้อคอนโดมิเนียมในราคาระดับกลางที่พออยู่ได้ เพื่อที่ลดเวลาการเดินทางและลดค่าใช้จ่าย

    ขณะเดียวกันการเลือกขนาดของบ้านก็มีผลต่อค่าใช้จ่ายในระยะยาว บ้านที่มีพื้นที่เยอะก็ต้องเสียค่าส่วนกลางมากตามไป พร้อมกับการดูแลรักษา ส่วนบ้านที่มีขนาดกำลังพอดีก็จะทำให้คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น