เพอร์เฟค-แกรนด์ แอสเสทฯ ร่วมทุน “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นพัฒนาคอนโดลักซ์ชัวรี่

เพอร์เฟค-แกรนด์ แอสเสทฯ ร่วมทุน “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นพัฒนาคอนโดลักซ์ชัวรี่

เพอร์เฟค-แกรนด์ แอสเสทฯ ร่วมทุน “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นพัฒนาคอนโดลักซ์ชัวรี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     กลุ่ม “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” และ “แกรนด์ แอสเสทฯ” ประกาศจับมือ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจไม้และรับสร้างบ้านของญี่ปุ่น ตั้งบริษัทร่วมทุน ประเดิมด้วยโครงการลักชัวรี่คอนโดระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ย่านทองหล่อ ด้วยเงินลงทุน 4,514 ล้านบาท

     อีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยและญี่ปุ่น เมื่อกลุ่มบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) โดย นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดย นายวิทวัส วิภากุล กรรมการและกรรมการบริหาร ได้ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับ นายอาคิระ อิชิคาวะ ประธานบริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี จำกัด และ นายทัตสึโอะ อิวางาคิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี (สิงคโปร์) จำกัด โดยมี นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว พร้อมด้วย นายพิชัย รัตตกุล ร่วมเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามจัดขึ้นที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น

     ภายใต้สัญญาความร่วมมือ ได้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้น โดยสัดส่วนการถือหุ้น แกรนด์ แอสเสทฯ ถือหุ้น 40%, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ถือหุ้น 11% และอีก 49% ถือหุ้นโดย ซูมิโตโม ฟอเรสทรี สิงคโปร์ [Sumitomo Forestry (Singapore) Ltd.] ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ถือหุ้นทั้งหมด โดยจะร่วมมือกันพัฒนาโครงการ ด้วยเงินลงทุน 4,514 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ลักซ์ชัวรี่ บนพื้นที่ 2.5 ไร่ ริมถนนสุขุมวิทระหว่างสถานีบีทีเอสทองหล่อและเอกมัย โดยอยู่ห่างจากสถานีทองหล่อ 350 เมตร ความสูงประมาณ 45 ชั้น จำนวนประมาณ 400 ยูนิต กำหนดเปิดตัวโครงการและเริ่มก่อสร้างในปี 2561 คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปี 2563

     นายชายนิด เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับ“ซูมิโตโม ฟอเรสทรี”พันธมิตรที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง326 ปี และเป็นผู้นำในธุรกิจป่าไม้และธุรกิจก่อสร้างบ้านของญี่ปุ่นในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการร่วมมือกันพัฒนาโครงการแล้ว ยังเป็นการเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท โดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มีความได้เปรียบ ทั้งในด้านทุนที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงเทคโนโลยีและโนว์ฮาวด้านการก่อสร้างของญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ยอมรับ และยังเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับโครงการ ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่เป็นลูกค้าหลักของทำเลทองหล่อได้เป็นอย่างดี

     “ทองหล่อเป็นหนึ่งในทำเลยอดนิยมของคอนโดระดับลักซ์ชัวรี่ แม้ว่า 1-2 ปีที่ผ่านมาจะมีโครงการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันค่อนข้างสูง แต่ความต้องการยังคงมีอยู่จำนวนมาก และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและลงทุนให้เช่า ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ปัจจุบันโซนนี้มีที่ดินเหลือพัฒนาไม่มาก ขณะที่ราคาซื้อขายปรับตัวขึ้นสูงมาก การหาแปลงที่ดินที่เหมาะสมและพัฒนาโครงการให้มีรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เป็นสิ่งที่กลุ่มบริษัทมีความมั่นใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเรามีพันธมิตรที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งนอกจากโครงการคอนโดทองหล่อแล้ว เรายังมีแผนจะสานต่อความร่วมมืออื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตด้วย”

     ในส่วนรูปแบบโครงการ นายวิทวัสเปิดเผยว่า “แนวคิดการออกแบบจะเป็นแบบ Timeless ที่ผสมผสานความคลาสสิกและโมเดิร์น เน้นความหรูหราสวยงามร่วมสมัยไร้กาลเวลา ทั้งนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ มีประสบการณ์และความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการพัฒนาโครงการหรูในทำเลสุขุมวิท ที่ผ่านมา มีการพัฒนาโครงการต่างๆ ทั้งคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ คือ ไฮด์ สุขุมวิท 11 และ ไฮด์ สุขุมวิท 13 และยังมีการลงทุนในโรงแรมระดับห้าดาวบนถนนสุขุมวิท ได้แก่ เดอะ เวสติน แกรนด์ สุขุมวิท รวมถึง ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท โรงแรมแห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท 13 ซึ่งติดกับโครงการคอนโด ไฮด์ สุขุมวิท 13 ที่จะเปิดให้บริการต้นปีหน้า”

     มร.อิชิคาวะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยในขณะนี้ ทำให้บริษัทมีความสนใจที่จะลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่ม PF และ GRAND ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย และยังเป็นการขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยสร้างฐานรายได้จากธุรกิจในต่าง ประเทศให้แก่บริษัทเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียก่อนหน้านี้ การเข้ามาร่วมทุนกับบริษัทไทยครั้งนี้ นอกจากจะเห็นโอกาสของการลงทุนในประเทศไทย ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นในโอกาสสำคัญ ในปีซึ่งเป็นวาระครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นด้วย”



[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook