MQDC พร้อมเปิดตัว ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

MQDC พร้อมเปิดตัว ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน

MQDC พร้อมเปิดตัว ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     MQDC พร้อมเปิดตัว ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พื้นที่วิจัยเพื่อความสุขและความยั่งยืนแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน

     - ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research & Innovation for Sustainability Center - RISC) เตรียมเปิดตัวกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ค้นคว้าวิจัยเพื่อความสุขและความยั่งยืนแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน มีมูลค่าการลงทุนกว่า 200 ล้านบาทโดย MQDC บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล
     - ศูนย์ RISC คิดค้นเทคโนโลยี แนวทางการออกแบบ พร้อมเครื่องมือตรวจวัดต่าง ๆ ขึ้นเพื่อรองรับแนวโน้มการพัฒนาและใช้ชีวิตในอนาคต เน้นการสร้างนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปเข้าใช้บริการ
     - ศูนย์ RISC นาทีมโดย รศ. ดร. สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์นักออกแบบชื่อดังจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้บุกเบิกกรีนดีไซน์ด้วยการนำเศษวัสดุมาใช้ในการออกแบบและก่อสร้างงานสถาปัตยกรรม

     บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จากัด (MQDC) ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล เตรียมเปิดตัวศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนเต็มรูปแบบแห่งแรกของประเทศไทย บนพื้นที่ราว 1,000 ตรม. มีมูลค่าการลงทุนเริ่มต้นกว่า 200 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ กลางเดือนพฤศจิกายน 2560 นี้ ตั้งเป้าเพื่อยกระดับวงการอสังหาริมทรัพย์ ให้เน้นการพัฒนาโครงการให้เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง และเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

 

     “การเปิดตัวศูนย์ RISC นี้จะเป็นจุดสาคัญของวิวัฒนาการใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เรามีความตั้งใจที่จะทาให้ RISC เป็นศูนย์กลางการคิดค้นนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ที่ซึ่งผลงานวิจัยที่ออกมาจะไม่ใช่เพียงเพื่อนามาใช้เฉพาะกับโครงการต่าง ๆ ของแมกโนเลียเท่านั้น แต่เรายังเปิดกว้างเพื่อให้บุคคลภายนอกได้มีโอกาสนางานวิจัยของเราไปใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ใช้ในการพัฒนาโครงการหรือเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่ต้องการยกระดับคุณภาพของวงการอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยรวมให้ดีขึ้น” รศ. ดร.สิงห์ กล่าวย้าอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว

     รศ. ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์ริสค์ หรือที่เรียกว่า RISC กล่าวว่า หลังจากที่บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จากัด หรือ MQDC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผู้ลงทุนและดาเนินการบริหารโครงการที่พักอาศัยแนวราบ คอนโดมีเนียม และโครงการมิกซ์ยูสคอมเพล็กซ์ ภายใต้แบรนด์ แมกโนเลียส์ (Magnolias) และ วิสซ์ดอม (Whizdom) ได้เริ่มลงทุนก่อสร้างศูนย์ฯ มาตั้งแต่ปีที่ 2559 และจะพร้อมเปิดพื้นที่วิจัยนี้ให้กับทุกคน ทุกองค์กร ที่สนใจด้านการพัฒนาและก่อสร้างอย่างยั่งยืน



     “RISC จะทำการวิจัยภายใต้หลักการ “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” เราจะพยายามค้นคว้าวิจัยให้บรรลุเป้าหมายทางความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อการพัฒนาทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ”

     รศ. ดร.สิงห์ กล่าวว่า “บริษัทได้ทุ่มทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการรองรับกิจกรรมวิจัยและสร้างนวัตกรรมใหม่แบบครบวงจร โดยเฉพาะส่วนของห้องแล็บและศูนย์ทดสอบได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัยไว้พร้อมรองรับการใช้งานให้ทีมงานนักวิจัยได้สามารถทาการศึกษา ค้นคว้าและทดสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในพื้นที่ 1,000 ตรม ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ประกอบไปด้วย ห้องทดสอบการใช้งานของงานระบบต่างๆ อาทิ เช่น ห้องทดสอบประสิทธิภาพของงานระบบปรับอุณหภูมิใต้แผ่นปูพื้นหรือ radiant flooring ซึ่งระบบนี้จะทาหน้าที่ช่วยปรับอุณหภูมิภายในห้องให้เหมาะสมและลดการใช้พลังงาน ห้องทดสอบสภาวะอากาศ ห้องทดสอบระบบเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับสารระเหยจากวัสดุตกแต่งในอาคาร “

     ศูนย์ RISC จะเป็นเสมือนห้องค้นคว้าของประชาชนด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบยั่งยืน เป็นที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยศูนย์ RISC ได้รวบรวมวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสาหรับงานก่อสร้าง จานวนกว่า 300 ชิ้น เพื่อเป็นข้อมูลในการออกแบบและก่อสร้าง พร้อมทั้งเป็นแหล่งรวมงานดีไซน์ใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

     นอกจากนี้ RISC ยังจัดสรรพื้นที่ทดสอบพืชพรรณต่างๆ ที่สามารถปลูกภายในอาคารที่ช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศภายในอาคารได้ พื้นที่ Laboratory ที่มีเครื่องมือทันสมัยสาหรับสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พร้อมทั้งมีพื้นที่ Simulation Lab ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์และการออกแบบด้านการประหยัดพลังงาน การใช้แสงสว่าง เป็นต้น

     ภายในศูนย์ RISC ยังประกอบไปด้วย ห้องทดสอบผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีต่อวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งต่างๆ มีห้องทดสอบระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนและแสง ตลอดจนแล็ปทดสอบการใช้งานของวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

     ผลทดสอบจากแล็บจะช่วยให้ทางบริษัทสามารถเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดและคงทน ปลอดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ตลอดจนยังช่วยลดค่าใช้จ่ายพลังงานให้กับผู้อยู่อาศัยด้วย



     ศูนย์ RISC วางเป้าหมายในการสร้างผลงานนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับมาตรฐานการสร้างที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ว่าจะเป็นผู้อยู่อาศัยในโครงการ รวมถึงสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ภายในและรายล้อมโครงการ

     “การเปิดตัวศูนย์ RISC นี้จะเป็นจุดสาคัญของวิวัฒนาการใหม่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทย เรามีความตั้งใจที่จะทาให้ RISC เป็นศูนย์กลางการคิดค้นนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ที่ซึ่งผลงานวิจัยที่ออกมาจะไม่ใช่เพียงเพื่อนามาใช้เฉพาะกับโครงการต่าง ๆ ของแมกโนเลียเท่านั้น แต่เรายังเปิดกว้างเพื่อให้บุคคลภายนอกได้มีโอกาสนางานวิจัยของเราไปใช้ในการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย ใช้ในการพัฒนาโครงการหรือเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยของตนเอง ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเราที่ต้องการยกระดับคุณภาพของวงการอสังหาริมทรัพย์และการออกแบบสถาปัตยกรรมโดยรวมให้ดีขึ้น” คุณวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จากัด หรือ MQDC กล่าวย้าอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว

     รศ. ดร.สิงห์ กล่าวอีกว่าทางศูนย์ RISC ตั้งเป้าขยายเครือข่ายทีมนักวิจัยระดับชั้นนากว่า 100 คนในอีก5 ปีข้างหน้า สาหรับตัวศูนย์ฯ เองก็ได้มีการก่อสร้างและตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกชิ้น โดยที่นี่ถือเป็นสานักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโดย the WELL Building Standard from the International WELL Building Institute (IWBI) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกในการรับรองอาคารที่ส่งเสริมสุขภาวะ โดย IWBI พิจารณาให้ใบรับรองการออกแบบและก่อสร้างที่พิถีพิถัน ทั้งทางด้านคุณภาพอากาศ แสงสว่าง น้า พื้นที่พักผ่อนและออกกาลังกาย รวมทั้งวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น เราได้นาเอาวัสดุที่ทาจากเปลือกไข่อัพไซเคิลมาเป็นวัสดุพื้นผิวโต๊ะและเคาน์เตอร์



     วอลเปเปอร์ฟอกอากาศ และสีทาภายในอาคารปลอดสารระเหย รวมถึงวัสดุตกแต่งทุกชนิดปลอดจากสารระเหยฟอร์มัลดีไฮด์ เป็นต้น

     โครงการของ MQDC ถือเป็นผู้บุกเบิกวงการอสังหาฯ เป็นรายแรกที่นาเทคโนโลยีล้าหน้า เพื่อคุณภาพชีวิตและการพัฒนาโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย อาทิเช่น โครงการ วิสซ์ดอม รัชดา-ท่าพระ เป็นโครงการอาคารห้องชุดพักอาศัยแห่งแรกที่นาเทคโนโลยี Co2 sensors ผนวกกับ Energy Recovery Ventilation (ERV) ซึ่งเป็นระบบถ่ายเทอากาศภายในอาคาร โดยมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับอากาศเป็นตัวช่วยสั่งการให้มีการถ่ายอากาศเสียออกและเติมออกซิเจนเข้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยปรับคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ indoor air quality ให้ดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

     นอกจากนี้โครงการ วิสซ์ดอม 101 ก็จะเป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ถูกออกแบบให้เป็นโครงการเมืองอัจฉริยะแบบบูรณาการหรือ Smart City remote asset management โดยโครงการนี้จะติดตั้งเทคโนโลยีเมืองอัจฉริยะร่วมกับระบบเชื่อมต่อครบวงจร ร่วมกันคิดค้นแอพพลิเคชั่นขึ้นใหม่เพื่อให้สั่งการทางานได้จากรีโมทคอนโทรล เพื่อตอบโจทย์เรื่องการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ได้แก่ การประหยัดพลังงาน ลดปัญหาจราจร ลดมลพิษทั้งภายนอกและภายในโครงการ ตลอดจนช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบสาธารณูปโภคและวัสดุต่างๆ ภายในอาคาร MQDC มีความมุ่งมั่นที่จะฉีกกฏการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบเดิมๆ มาเป็นโครงการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมหรือ Sustainnovation โดยมุ่งคิดค้นนวัตกรรมใหม่ นามาผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีปัจจุบัน อาทิ โฮมออโตเมชั่น การใช้พลังงานบริสุทธิ์ การจัดการทางด้านการเงินให้ผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงข้อมูลการศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ นามาใช้ร่วมกัน เพื่อให้ทุกโครงการบรรลุเป้าหมายการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืน



[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook