Shazam ครบรอบ 20 ปี พร้อมกับสถิติการค้นหาเพลงกว่า 7 หมื่นล้านครั้ง

Shazam ครบรอบ 20 ปี พร้อมกับสถิติการค้นหาเพลงกว่า 7 หมื่นล้านครั้ง

Shazam ครบรอบ 20 ปี พร้อมกับสถิติการค้นหาเพลงกว่า 7 หมื่นล้านครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ Shazam ครบรอบ 20 ปี พร้อมกับสถิติการค้นหาเพลงกว่า 7 หมื่นล้านครั้ง แพลตฟอร์มของ Shazam ได้กลายเป็นที่นิยมของวัฒนธรรมป๊อปและเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับดนตรีด้วยการทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการค้นหาเพลงได้ง่ายขึ้น และทำให้การ “Shazam” เป็นวิธีการค้นหาสิ่งใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้รายเดือนกว่า 225 ล้านคนทั่วโลก


ในโอกาสนี้ Shazam ขอเชิญชวนแฟนๆ ทุกคนมาย้อนความทรงจำไปกับเพลย์ลิสต์สุดพิเศษที่ประกอบไปด้วยเพลงที่ถูก Shazam มากที่สุดในแต่ละปีปฏิทินตลอด 20 ปีที่ผ่านมา อย่างเพลง “Hey, Soul Sister” ของ Train และ “Cheap Thrills” ของ Sia เพลย์ลิสต์นี้คือกระจกสะท้อนตัวตนของแฟนๆ ทั่วโลกที่ค้นหาเพลงในตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา สามารถฟังได้แล้ววันนี้ทาง Apple Music ที่เดียวเท่านั้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาชาร์ตทั่วโลกของ Shazam ได้เป็นส่วนสำคัญในการแนะนำศิลปินหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง อาทิ Masked Wolf ที่เป็นหนึ่งใน 5 ศิลปินที่น่าจับตามองของปี 2021 โดย Shazam ซึ่งเพลง “Astronaut In The Ocean” ของเขากลายเป็นเพลงที่ถูก Shazam มากที่สุดทั่วโลกของปี

 shazam

“การทื่ผู้คนทั่วโลกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อ Shazam เพลงของผมในระหว่างวัน ในฐานะศิลปินผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก” Masked Wolf กล่าว “คุณจะรู้เลยว่าคุณมีสิ่งที่พิเศษอยู่ถ้าตัวเลขสถิติ Shazam เริ่มเติบโต”
ชาร์ตของ Shazam ได้กลายเป็นมาตรวัดสำหรับช่วงเวลาสำคัญของวัฒนธรรมป๊อปที่คาดไม่ถึง อย่างเพลง “Running Up That Hill” ของ Kate Bush จากปี 1985 ที่ถูกใช้ใน “Stranger Things” กลายเป็นเพลงที่ถูก Shazam มากที่สุดของศิลปิน และทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งของชาร์ต Shazam Global Top 200 เป็นเวลา 10 วัน และขึ้นสู่อันดับหนึ่งในชาร์ตอีก 25 ประเทศซึ่งมากกว่าเพลงไหนในปี 2022

นอกจากนี้ Shazam ยังเป็นกำลังสำคัญในการแนะนำศิลปินในประเทศให้กับผู้ฟังทั่วโลก โดยเพลงที่อยู่บนอันดับหนึ่งของชาร์ตที่นานที่สุดในปี 2021 อย่าง "Love Nwantiti [Remix]” โดยศิลปินไนจีเรีย CKay เป็นเพลงที่มียอด Shazam ทะลุหนึ่งล้านครั้งในหนึ่งสัปดาห์เป็นลำดับที่สอง

“Shazam เป็นส่วนสำคัญสำหรับอาชีพนักดนตรีของผม” CKay กล่าว “เพราะมันเปิดโอกาสให้ผู้คนนับล้านทั่วโลกได้ค้นพบผมและซาวด์ของไนจีเรียที่ไม่เหมือนใคร และทำให้ผมโด่งดังไปทั่วโลกก่อนที่ผมจะได้แสดงให้ทุกคนได้ดูเสียอีก เรื่องราวของ CKay คงจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลยถ้าหาก Shazam ไม่ได้ช่วยเชื่อมต่อผมกับผู้คนทั่วโลก”

Shazam ยึดมั่นในนวัตกรรมตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยการคิดค้นวิธีใหม่ๆ ในการนำพาแฟนๆ ให้เข้าถึงดนตรีและศิลปินที่พวกเขารักด้วยเครื่องมือใหม่ๆ อย่างฟีเจอร์ค้นพบคอนเสิร์ตที่แนะนำข้อมูลคอนเสิร์ตและตั๋วที่วางจำหน่ายสำหรับโชว์ที่เกิดขึ้นใกล้ตัวผู้ใช้จากการ Shazam เพลง หรือผ่านการค้นหาในแอปหรือเว็บไซต์ของ Shazam

Shazam จะยังคงให้ความสำคัญกับอนาคตของการค้นพบเพลง และในวันครบรอบนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้มองย้อนกลับไปยังช่วงเวลาและเหตุการณ์สำคัญที่เป็นประวัติศาสตร์ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา
วันสำคัญ

  • สิงหาคม 2002: Shazam เปิดตัวบริการข้อความในสหราชอาณาจักร ผู้ใช้สามารถค้นหาเพลงได้ด้วยการโทรไปที่ “2580” บนโทรศัพท์และถือสายไว้ในขณะที่เพลงกำลังเล่น และทำการส่งข้อความผ่าน SMS บอกชื่อเพลงและชื่อศิลปิน
  • กรกฎาคม 2008: Shazam เปิดตัวแอปใหม่บน App Store และเปิดตัวเวอร์ชั่น Android ในเดือนตุลาคม 2008
  • เมษายน 2015: Shazam พร้อมให้ใช้งานบน Apple Watch รุ่นแรก
  • กันยายน 2018: Shazam เข้าร่วมครอบครัว Apple
  • มิถุนายน 2021: Shazam มีการค้นหาเพลงเกิน 1 พันล้านครั้งต่อเดือน
  • พฤษภาคม 2022: Shazam มียอดการติดตั้ง 2 พันล้านครั้ง
  • สิงหาคม 2022: Shazam เฉลิมฉลอง 20 ปีของการค้นหาเพลงและมีจำนวนการ Shazam ถึง 7 หมื่นล้านครั้ง


ครั้งแรกที่สำคัญ

  • เพลงแรกที่ถูก Shazam: “Jeepster” โดย T.Rex (19 เมษายน 2002)1
  • เพลงแรกที่ถูก Shazam บนแอป iOS: “How Am I Different” โดย Aimee Mann (10 กรกฎาคม 2008)
  • เพลงแรกที่ถูก Shazam หนึ่งพันครั้ง: “Cleanin’ Out My Clost” โดย Eminem (กันยายน 2002)
  • เพลงแรกที่ถูก Shazam หนึ่งล้านครั้ง: “TiK ToK” โดย  Ke$ha (กุมภาพันธ์ 2010)
  • เพลงแรกที่ถูก Shazam 10 ล้านครั้ง: “Somebody That I Used to Know” โดย Gotye feat. Kimora (ธันวาคม 2012)
  • เพลงแรกที่ถูก Shazam 20 ล้านครั้ง: “Prayer In C (Robin Schulz Radio Edit)” โดย Lilly Wood & The Prick และ Robin Schulz (ตุลาคม 2015)
  • ศิลปินคนแรกที่มียอด Shazam หนึ่งล้านครั้ง: Lil Wayne (กุมภาพันธ์ 2009)
  • ศิลปินคนแรกที่มียอด Shazam 10 ล้านครั้ง: Lil Wayne (มิถุนายน 2011)
  • ศิลปินคนแรกที่มียอด Shazam 100 ล้านครั้ง: David Guetta (พฤษภาคม 2015)


เพลงที่มียอด Shazam เร็วที่สุด

  • เพลงที่มียอด Shazam หนึ่งล้านครั้งเร็วที่สุด: “Butter” โดย BTS (9 วัน)
  • เพลงที่มียอด Shazam 10 ล้านครั้งเร็วที่สุด: “Shape of You” โดย Ed Sheeran (87 วัน)
  • เพลงที่มียอด Shazam 20 ล้านครั้งเร็วที่สุด: “Dance Monkey” โดย Tones And I (219 วัน)


เพลงที่ถูก Shazam มากที่สุดตลอดกาล

  • Drake คือศิลปินที่ถูก Shazam มากที่สุดตลอดกาลด้วยกว่า 350 ล้าน Shazam สำหรับทุกเพลงที่เขาเป็นคนร้องนำหรือร่วมฟีเจอร์ โดย “One Dance” คือเพลงที่มีความนิยมสูงสุดของ Drake ด้วยการ Shazam กว่า 17 ล้านครั้ง
  • “Dance Monkey” โดย Tones And I คือเพลงที่ถูก Shazam มากที่สุดตลอดการด้วยการ Shazam กว่า 41 ล้านครั้ง
  • “Crazy” โดย Gnarls Barkley คือเพลงที่ถูก Shazam มากที่สุดผ่านบริการข้อความ “2580”


เพลงที่ถูก Shazam มากที่สุดตามแต่แนว

  • เพลงยอดนิยมแนวฮิปฮอป/แร็ป: “Can’t Hold Us” โดย Macklemore และ Ryan Lewis feat. Ray Dalton
  • เพลงยอดนิยมแนวแดนซ์: “Prayer In C (Robin Schulz Radio Edit)” โดย Lilly Wood & The Prick และ Robin Schulz
  • เพลงยอดนิยมแนวอาร์แอนด์บี/โซล: “All of Me” โดย John Legend
  • เพลงยอดนิยมแนวละติน: “Mi Gente” โดย J Balvin และ Willy William
  • เพลงยอดนิยมแนวป๊อป: “Let Her Go” โดย Passenger
  • เพลงยอดนิยมแนวอัลเทอร์เนทีฟ: “Dance Monkey” โดย Tones And I
  • เพลงยอดนิยมของนักร้อง/นักแต่งเพลง: “Take Me to Church” by Hozier
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook