รีวิว ROG Flow X13 คอมพิวเตอร์เล่นเกม แบบ 2 in 1 ครั้งแรกที่พับได้และเบาสะดวกพก

กลับมาพบกับรีวิว จากทีว Sanook Hitech อีกครั้งหนึ่ง สำหรับรอบนี้ใครที่มองหาคอมพิวเตอร์เล่นเกมที่สเปกดีและน่าคบหามากที่สุดรุ่นหนึ่ง ทีมก็มีคอมพิวเตอร์รุ่นหนึ่งมาแนะนำอย่าง ROG Flow X13 ที่มีดีไซน์สวย วัสดุดี และน้ำหนักเบา มะนเด็ดแค่ไหน และรุ่นนี้มีความกน่าสนใจแค่ไหน มารับชมกันเลยครับ 

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ ROG Flow X13 

เริ่มต้นกับด้านหน้าที่เป็นวัสดุ คาร์บอนไฟเบอร์ที่เรียบหรูตัดลวดลายได้อย่างสวยงาม เพราะมีการออกแบบที่ลงตัว โดยมีการตัดลายให้มีการสะท้อนแสงที่แตกต่างกัน ทำให้มันดูลงตัวอย่างมากพร้อมกับโลโก้ ROG ที่อยู่มุมล่างขวามือ 

รอบตัวออกแบบดูดีใช้ได้เลยครับ และเนื่องจากเครื่องมีขนาดเล้กทำให้ Port ที่มีก็มีเพียงแค่จำเป็นเท่านั้น ฝั่วซ้ายจะมีช่องเสียบ HDMI, หูฟัง, XGm หรือ ให้เข้าใจง่ายคืออุปกรณ์เสริมเช่น GPU ที่มีมาให้กับคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ ที่ต้องซื้อแยก แต่ถ้าไม่เสียบ คุณสามารถเสียบ USB-C สำหรับชาร์จไฟได้ 

ฝั่งขวามีช่องเสียบ USB-A และ USB-C พร้อมกับปุ่มสำหรับเปิดตัวเครื่องและมีช่องระบายอากาศ 

บานพับจะอยู่ด้านหน้าของตัวเครื่องที่มีรูปแบบให้คุณสามารถปรับยกตัวเครื่องขึ้นมาได้ ทั้งนี้ยิ่งกางเยอเจอ Keyboard ก็จะมีการยกตัวเองขึ้นมา และบานพับสามารถพับเครื่องได้ในระดับ 360 องศา ด้วยครับ นั่นคือสามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ทั้ง 

• Tablet Mode = พับเครื่องจนสุดให้หน้าจออยู่อีกด้าน 

• Display Mode = แผง Keyboard อยู่ข้างใต้ยกหน้าจอขึ้น 

• Tent Mode  = วางส่วนล่างของ Keyboard ทั้งขึ้น จะใช้งานได้แค่เฉพาะหน้าจอ 

• Laptop Mode = จอและ Keyboard จะอยู่ตำแหน่งคอมพิวเตอร์ Notebook ปกติครับ 

ด้านหน้าที่หันมาหาเจ้าของจะมีร่องสำหรับยกฝาตัวเครื่องขึ้น ให้คุณยกหน้าจอขึ้นมาได้ แค่ใช้มือเดียวเท่านั้น  

ใต้เครื่องนอกจากให้ลำโพงมาให้แบบจัดเต็มยังมีช่องระบายอกาศทำให้โดยรอบของเครื่อสมารถใช้การปล่อยจุดระบายอากาศได้อย่างดี 

เมื่อเปิดฝาเครื่องขึ้นมา จะพบกับ Keyboard ที่ออกแบบให้กดได้แม่นยำผิดกับคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าตาแบบเดียวกัน พร้อมกับ LED Backlit มาให้และส่วนปุ่มเพิ่ม / ลด ระดับเสียง, เปิด / ปิดไมโครโฟน และ ปุ่มเข้าไปเมนู ARMOURY Crate ก็มีให้กดตามปกติเช่นเคย 

 

ภาพรวมการออกแบบ 

ต้องทำความเข้าใจใหม่ว่า นี่คือคอมพิวเตอร์สเปก Gamer ที่มีหน้าตาบางเบางสุดและสะดวกพกมากที่สุดทำให้ช่องเสียบนั้นไม่ได้มาครบเหมือนกับ ROG รุ่นที่เคยรีวิวกไปก่อนหน้านี้ แลกมาด้วยความบางเบา พกพาง่าย และมีความโดดเด่น แต่สิ่งที่คุณควรใช้กับคอมพิวเตอร์รุ่นนี้คือ เคสกระเป๋าที่มากับเครื่องนอกจากลายที่สวยงามแล้ว ยังมีจุดเด่นที่คุณสามารถเก็บปากกาได้ ไม่งั้นถ้าคุณเก็บในกระเป๋าปกติ ปากกาจะต้องอยู่ด้านบนของเครื่องเท่านั้น เสี่ยงที่จะหลุดนั่นเอง 

เปิดเครื่องทดลองใช้งาน ROG Flow X13 

รายละเอียดตัวเครื่อง ROG Flow X13 

• หน้าจอแสดงผลขนาด 13.4 นิ้ว ความละเอียด 1920x1200 พิกเซล 
• ขนาด : 29.9 x 22.2 x 1.58 ~ 1.58 เซนติเมตร
• หนัก : 1.30 กิโลกรัม 
• ชิปเซ็ตประมวลผล : AMD Ryzen 9 5900HS Processor 3.1 GHz (16M Cache, up to 4.5 GHz) 
• ชิปประมวลผลกราฟิก : NVidia GeForce GTX 1650 4GB GDDR6  
• RAM : 16GB 
• ความจุ(ROM) : SSD 1TB  
• กล้องหน้า : HD Camera 
• ตัวเชื่อมต่อ (Port) ช่องเสียบหูฟัง, HDMI, USB-C 2 1 ช่อง, USB 3.2 1 ช่อง, USB 2.0 2 ช่อง, XGm ที่สามารถถอดเสียบเป็น USB-C ได้ 1 ช่อง 
• เชื่อมต่อ WiFi 802.11  B/G/N/AC/AX, Bluetooth V5.0 
• ระบบปฏิบัติการ : Windows 10 64 Bit 
• แบตเตอรี่ขนาด 62 Wh 4 Cell ที่ชาร์จแบบ  
  TYPE-C, 100W AC Adapter, Output: 20V DC, 5A, 100W, Input: 100~240V AC, 50/60Hz universal 

ผลการทดสอบประสิทธิภาพ 

จากเครื่องปกติ

จากเครื่องปกติ

ใช้การ์ดจอบนเครื่อง

เมื่อใช้ XGM

เมื่อใช้ XGm

เมื่อใช้ XGm

 

จากสเปกของเครื่องถือว่าแรงเกินตัวเลยครับ แต่ถ้าจะแรงกว่านี้ต้องเสียบการ์ดจอแยกหรือ XGm เท่านั้นจะทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นทำให้การเล่นเกมของคอมพิวเตอร์รุ่นนี้ทำได้ลงตัวและยังมีประสิทธิภาพที่ลงตัวอย่างมากเลยครับ นอกจากนี้  ยังมีลูกเล่น ARMORY Crate ที่มีช่วยปรับแต่งที่น่าสนใจ รายละเอียดไว้ดูในส่วนของลูกเล่นต่อไป 

การออกแบบระบบระบายความร้อนของรุ่นนี้ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook แม้ว่าจะไม่ได้มีช่องอะไรมากมายแต่ ยังให้ความโดดเด่นที่ดีไม่มีความร้อนสะสมในตัวเครื่องมากนัก และยังเลือกโหมดพัดลมได้ แถมยังป้องกันฝุ่นได้อีกด้วย 

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง 

การแสดงผลของหน้าจอ ROG Flow X13 เป็นอีกคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าตาที่ดูดีมากให้สีสันที่ตรงแม้ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ดังนั้นถ้าใครนำคอมพิวเตอร์รุ่นนี้มาใช้ทำกราฟิกถือว่าทำได้เลยครับ 

แต่ว่าลำโพงของเครื่อง มีขนาดใหญ่พอตัวให้เสียงที่ดี และมีการปรับตั้งค่าได้ แถมไมโครโฟนยังมีระบบ Active Noise Cancelation มาให้เลือกใช้บริการด้วยครับ 

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายในตัวเครื่อง 

ระบบปฏิบัติการของ ROG Flow X13 เลือกใช้ Windows 10  เช่นเคย ส่วนระบบความปลอดภัยเป็นแบบ PIN Code เท่านั้น 

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ของเครื่องที่มาแบบจัดหนักเหมือนกับคอมพิวเตอร์ตระกูล ROG ตัวใหญ่เช่น 

My ASUS โปรแกรมตรวจสอบสถานะของเครื่องว่าใช้งานเป็นอย่างไรและมีปัญหาหรือไม่และยังมีฟีเจอร์มากมายเช่น 

• การตรวจสอบปัญหาเบื้องต้นของเครื่อง รวมถึงการขึ้น Blue Screen  
• อัปเดต Software ภายในเครื่อง  
• AppDeal สำหรับคนที่อยากได้ของถูกและเสียตังค์น้อย ASUS ก็จัดมาให้  
• ติดต่อกับ Call Center ผ่านเครื่องได้  
• โปรแกรมจัดการแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนาน หรือต้องการถนอมแบตเตอรี่ 
• Link to MyASUS เชื่อมต่อกับมือถือได้แบบไร้รอยต่อไม่ว่าจะเป็นการแชร์หน้าจอ, File, แชร์หน้าจอ เป็นต้น 

Armoury Crate โปรแกรมควบคุมและเป็นศูนย์กลางของเครื่องตระกูลเล่นเกมที่สามารถปรับแต่งประสิทธิภาพ, ไฟเรืองแสงของเครื่องและรวมไปถึงการปรับระบบไมโครโฟนของเครื่อง 

นอกจากนี้ตัวเครื่องรุ่นนี้จะมี iGPU ปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกับการประหยัดไฟของเครื่องทำให้ สามารถใช้ได้นาน และ Boost เพิ่มพลังกราฟิก เมื่อจำเป็น 

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ 

แบตเตอรี่ของ ROG Flow X13 มีขนาด 62Wh หรือเปรียบเทียบกับขนาดแบตฯ ได้ 4 Cell ถือว่าใหญ่กว่าตัวเครื่องด้วยซ้ำ โดย ASUS ได้เคลมว่าคอมพิวเตอร์รุ่นนี้จะสามารถใช้งานได้ยาวนานสุดที่ 10 ชั่วโมง แต่เมื่อทีม Sanook Hitech ทดลองใช้งานจริงกลับพบว่า มันสามารถใช้งานได้เพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น  

ส่วนระบบการชาร์จไฟของ ROG Flow X13 ใช้แบบ USB-C เมื่อกำลังไฟของเครื่องมีกำลังไฟ 100W ที่ติดกล่องมากับเครื่อง ทั้งนี้สามารถเลือกใช้ในแบบ PD ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งผมได้ทดลอง 

สรุปหลังจากทีม Sanook Hitech ได้ทดลอง ROG Flow X13  

พูดเลยว่าหลังจากที่ได้ทดลองแล้วนี่เป็นคอมพิวเตอร์แบบพับได้ที่ให้สเปกดีเกินตัวไปมาก แม้ว่าสิ่งที่คุณอาจจะต้องทำใจคือค่าตัวของมัน แต่ลองคิดดูว่าถ้าคุณต้องพกคอมพิวเตอร์สเปกแรงๆ และมีดีไซน์สวยโดนใจทั้งคนทำงานและเล่นเกม ผมว่าคำตอบในการเลือกยังคงจบที่รุ่นนี้แบบไม่ยากนัก 

สำหรับ ROG Flow X13 จะมีสเปกให้เลือกทั้งหมด  

• รุ่นที่เลือกใช้ขุมพลัง AMD Ryzen™ 9 5900HX = 49,990 บาท 
• รุ่นที่ใช้ขุมพลัง AMD Ryzen™ 9 5980HS = 99,990 บาท และรุ่นนี้มาพร้อมกับ External GPU แต่จะเริ่มขายในเดือน มิถุนายน 2564 

จุดเด่น 

• รูปลักษณ์ดูบางเบาและสวย 
• สเปกแรงเกินตัว 
• หน้าจอให้สีที่สวยงาม 
• สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน 
• ชาร์จไฟ Type C ได้แล้ว 

ข้อสังเกต  

• จะให้แรงทั้งที่ควรจะมี XG Mobile 
• แบตเตอรี่ ใช้นานๆ ยังไม่ทนเท่าไหร่