[Hands On] Microsoft Surface Pro 7 และ Microsoft Surface Laptop 3 สุดยอดคอมพิวเตอร์พกพาที่ดีกว่าเดิม

Microsoft เปิดตัว Surface Family มาพร้อมกับ จุดเด่นที่ต้องการใช้งานที่มีศักยภาพสูงตอบโจทย์หลายรูปแบบ โดยครั้งนี้ เป็นการเผยโฉม Surface Pro 7 และ Surface Laptop 3 ที่มีสโลแกน Anything but Ordinary  

 
จุดเริ่มต้นของ Microsoft Surface ตัวแรก เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 ในรุ่น Surface RT และ Surface Pro และมีการวิจัยมาถึง 20 ปี ในเรื่องการใช้งานเกี่ยวกับ Touch Screen ปัจจุบันมี 6 ตระกูล ทุก Form factor  

 
การออกแบบของ Surface ระหว่างวิศวกร และ Designner ที่ลงตัวต่อคนใช้งานทวิธีการออกแบบ ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดี ทั้งการใช้และการ้ขียน, การพิมพ์ และ ใช้เสียงที่จะตอบโจทย์ที่ทุกคนต้องการ 
 
Surface จะตอบโจทย์ใน 2 กลุ่มคน คือ ทำงานที่ไหนก็ได้ และ คนทำงาน , นักเรียน ที่ตอบโจทย์การทำงานที่ไม่ธรรมดา เพื่อ Unlock Productivity เพราะ สามารถ ทำงาน, การเขียน หรือ การพิมพ์ที่ตอบทุกความต้องการของคน และรวมถึงความปลอดภัย 

การทำงานระดับบุคคลมีความสำคัญ และ คนมองในแบบ Team Work จะตอบโจทย์มากขึ้น และ นอกจากนี้ Surface ตอบโจทย์ในการทำงานได้รอบด้าน และรองรับทั้งองค์กร ได้เช่น Surface Go ที่มีขนาดเล็ก สามารถใช้ส่งเอกสาร และ พิมพ์งาน หรือ Share ข้อมูลได้ทันที 

จุดเด่นของ Surface คือ เบา พกพาสะดวก ความคล่องตัวสูง ปรับเปลี่ยนการทำงานได้ทุกรูปแบบ ขึ้นอยู่กับใช้งานแบบไหน เพราะ สลับโหมดได้  ดังนั้นตัวเครื่องก็เลยมีการสื่อสารและประสิทธิภาพที่อัปเกรดจากเดิมเช่น ไมโครโฟน สามารถ สื่อสารได้ แบบไม่มีการสะดุดระหว่างการประชุม และ ลำโพงให้เสียงที่ดี หน้าจอคมชัด   และมาพร้อมกับ Windows 10 Pro ที่ทันสมัยและปลอดภัย 

พูดถึงเรื่องของ Surface มาก็เยอะแล้วมาดูกับ 2 Product ใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่ายอยู่ได้แก่ 

 
Surface Pro 7 จะตอบโจทย์ในการใช้งานรอบด้าน และเน้นน้ำหนักเบา พร้อมกับ USB-C, น้ำหนักเบา สามารถพกได้สะดวกนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีมากมาย เช่น Studio Mic ทำให้การสนทนาชัดมากขึ้น ระบบการทำงานสแกนใบหน้าก็จะเร็วขึ้น และขุมพลังเป็น Intel Core รุ่นที่ 10 ใหม่ล่าสุด ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาท ภาพรวมยังคงเป็น Surface Pro ที่ปรับปรุงเรื่องหน้าจอใหญ่ขึ้นเล็กน้อยครับและน้ำหนักไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากนัก

 
Surface Laptop 3 จะมี 2 ขนาด ที่ตอบโจทย์ในเรื่องการออกแบบตัวเครื่องได้อย่างดี และ ประสิทธิภาพที่ดี และคราวนี้มาพร้อมกับขุมพลังให้เลือกทั้ง Intel Core รุ่นที่ 10 และ AMD Ryzen ซึ่งจะมีให้เฉพาะขนาด 15 นิ้วเท่านั้น 

ช่องเสียบของเครื่องที่เพิ่มเข้ามาคือ USB-C นั่นเองและตัวชาร์จเป็นแบบ Quick Charge ไปแล้วด้วยครับ และมีราคาเริ่มต้น 34,990 บาท 

และเซอร์ไพรส์ในงานกับ Microsoft Surface Pro X ที่ไม่คาดคิดว่าจะมาเผยโฉมในประเทศไทยเป็นที่แรกในภูมิภาค แต่ยังไม่จำหน่าย ณ เวลานี้ มาพร้อมกับขุมพลังใหม่ Microsoft SQ1 ซึ่งเป็น CPU ผลิตโดยสถาปัตยกรรมของ ARM 64 จุดเด่นคือเครื่องขนาดเท่า Surface Pro 7 น้ำหนักเบา, ใส่ซิมการ์ดได้ทั้งแบบ Nano SIM และ eSIM 

สามารถถอดเปลี่ยนความจำได้ แต่ว่าตัดช่องเสียบหูฟังออกไป และเพิ่ม USB-C มาให้ทั้งหมด 2 ช่องด้วยกัน และ Keyboard ถึงแม้จะใช้กับรุ่นก่อนหน้านี้ไม่ได้แต่ว่าปากกาของมันเปลี่ยนเป็นแบบ Pro ที่ชาร์จไฟไร้สายได้แล้ว ถือว่าสุดยอดจริงๆ ครับใครอยากได้คงต้องลุ้นราคาต่อไป