หัวเว่ยนำเสนอระบบปฏิบัติการใหม่ HarmonyOS พร้อมโชว์ศักยภาพซอฟต์แวร์ EMUI10

หัวเว่ยนำเสนอระบบปฏิบัติการใหม่ HarmonyOS พร้อมโชว์ศักยภาพซอฟต์แวร์ EMUI10

หัวเว่ยนำเสนอระบบปฏิบัติการใหม่ HarmonyOS พร้อมโชว์ศักยภาพซอฟต์แวร์ EMUI10
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หัวเว่ยย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี นำเสนอ HarmonyOS ระบบปฏิบัติการแบบกระจาย (Distributed Operating System) ที่ใช้ Microkernel ในจัดการทรัพยากรระบบ เชื่อมโยงการใช้งานในทุกอุปกรณ์แห่งอนาคต มอบประสบการณ์การใช้งานที่ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด

>> พารู้จักกับ Harmony OS และ EMUI 10 อนาคตใหม่ของระบบปฏิบัติการจาก Huawei

harmonyosemui10mediabrie

พร้อมยกระดับสมาร์ทโฟนอีกขั้นด้วย EMUI10 ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่พัฒนาตามแนวคิดแบบ Distributed เชื่อมโยงอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์และแอปพลิเคชันต่างๆ เข้าด้วยกัน ตอบโจทย์การใช้งานและชีวิตดิจิทัลอย่างแท้จริง

 HarmonyOS ระบบปฏิบัติการแห่งอนาคตที่จะเชื่อมโยงทุกอุปกรณ์ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

James Lu, Senior Manager of EMUI product marketing, Huawei Consumer Business Group เปิดเผยว่า “ในยุคของ Internet of Everything ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ของหัวเว่ย จะเป็นก้าวใหม่ของโลกเทคโนโลยี ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งด้านความสามารถในการรองรับการทำงานบนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ทำให้ใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ การรองรับ  
การทำงานกับแพลตฟอร์มและอุปกรณ์หลากประเภท ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต สมาร์ทวอทช์ ลำโพง ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ในรถยนต์ นอกจากนี้ HarmonyOS ยังเพียบพร้อมไปด้วยความสามารถในแง่ของการตอบสนองการใช้งานอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งยังมีความปลอดภัยกับผู้บริโภคอย่างยิ่งอีกด้วย”

HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพสำหรับสมาร์ทดีไวซ์ และเป็นครั้งแรกของโลกที่ใช้ระบบปฏิบัติการแบบกระจาย (Distributed Operating System) ซึ่งการใช้ Microkernel ในการจัดการทรัพยากรระบบนั้น ทำให้สามารถทำงานได้กับทุกอุปกรณ์ อีกทั้งยังเป็นระบบปฏิบัติการที่รองรับคุณสมบัติอันชาญฉลาด ทั้ง Shared Communications Platform, Distributed Data Management, Distributed Task Scheduling, และ Virtual Peripherals  

james-lu

สถาปัตยกรรมของระบบปฏิบัติการแบบ Distributed OS ที่รองรับเทคโนโลยี Distributed Virtual Bus ทำให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆ ของแอปพลิเคชันได้อย่างเต็มที่

โดยไม่จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดเชิงลึก เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับอุปกรณ์รุ่นที่แตกต่างกันอีกต่อไป เพราะการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับระบบปฏิบัติการ HarmonyOS จะสามารถใช้งานกับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันได้   อย่างต่อเนื่อง

เทคโนโลยี Deterministic Latency Engine และ High-Performance Inter Process Communication (IPC) ช่วยให้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS มีการทำงานที่ลื่นไหล ลดอาการหน่วงของแอปพลิเคชันลงได้ถึง 7% นอกจากนี้ Microkernel ยังสอดคล้องกับเทคโนโลยี IPC ส่งผลให้ประสิทธิภาพของ IPC สูงกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆ ถึง 5 เท่า

HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติแรกที่มีการยืนยันแบบ Formal Verification ซึ่งทำงานบน Trusted Execution Environment (TEE) โดยอาศัยการสร้างโมเดลข้อมูลเพื่อตรวจสอบทุกส่วนของซอฟต์แวร์ และใช้กลไก ทางคณิตศาสตร์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของระบบตั้งแต่แหล่งที่มา จึงแตกต่างจากระบบการยืนยันแบบเดิม นอกจากนี้ ยังมีจำนวนบรรทัดโค้ดที่น้อยกว่าระบบปฏิบัติการที่พัฒนาจาก Linuxkernel ถึง 1 ต่อ 1,000 ทำให้   มีช่องโหว่ของระบบน้อยกว่าระบบปฏิบัติการอื่น และนับเป็นการยกระดับความปลอดภัยของระบบให้สูงขึ้น

HarmonyOS รองรับระบบ Multi-Device IDE ซึ่งเป็นระบบที่รองรับภาษาคอมพิวเตอร์หลากหลายภาษา และมีสถาปัตยกรรมที่รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบเฉพาะ ระบบ Multi-device IDE จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถเขียนชุดคำสั่งเพียงครั้งเดียว ก็สามารถนำซอฟต์แวร์ของตนไปใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS จึงนับเป็นการยกระดับการทำงานกับอุปกรณ์ที่หลากหลายไปอีกขั้น

HUAWEI ARK Compiler เป็นคอมไพเลอร์แบบ Static ตัวแรกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Virtual Machine ของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถรวบรวมโค้ดที่ซับซ้อนมาเพื่อให้ระบบแปลงเป็นโค้ดที่เรียบง่ายสำหรับการทำงานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว จึงเอื้อประโยชน์ให้กับนักพัฒนาเป็นอย่างมาก

HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการที่เปิดกว้างให้แก่นักพัฒนาทั่วโลก และจะสร้างมิติใหม่ให้กับการใช้งานทุกรูปแบบ โดยผู้บริโภคจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เปี่ยมพลังและไร้รอยต่อตลอดทุกจังหวะของชีวิต  ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จะสามารถพัฒนาฮาร์ดแวร์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น 5G, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น และนักพัฒนาจะสามารถเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากโดยใช้ต้นทุนน้อยลง และยังทำงานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย” James Lu กล่าว

EMUI10 ซอฟต์แวร์ที่จะช่วยยกระดับสมาร์ทโฟนไปอีกขั้น

James Lu เปิดเผยว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เห็นได้จากการส่งมอบสมาร์ทโฟนไปแล้วกว่า 100 ล้านเครื่องใน 5 เดือนแรกของปีนี้ ปัจจุบันมีผู้ใช้งาน EMUI 500 ล้านคนต่อวัน  ใน 216 ประเทศ รองรับภาษาท้องถิ่นกว่า 77 ภาษา จากสถิติของหัวเว่ยชี้ว่า ยอดการอัพเกรดของผู้ใช้ไปยัง EMUI8 นั้นอยู่ที่ร้อยละ 79 และ EMUI9 ร้อยละ 84 หัวเว่ยจึงมุ่งพัฒนาให้ EMUI เป็นสื่อกลางที่ช่วยผสานการทำงานต่างๆ ระหว่างอุปกรณ์ และนำเสนอคุณสมบัติใหม่ๆ รวมไปถึงประสบการณ์การใช้งานระดับเยี่ยมยอดสู่ผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนที่อัพเกรดไปใช้ EMUI10”

“ทั้งนี้ EMUI10 จะมีการอัพเดท 3 จุดที่สำคัญ คือรูปลักษณ์, ประสบการณ์การใช้งาน, ประสิทธิภาพและมาตรฐานใหม่ ที่จะทำให้สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง”

 โหมดมืด รูปลักษณ์ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้งาน

จากการวิจัยอย่างละเอียด หัวเว่ยพบว่าสายตาของมนุษย์ จะรู้สึกถึงระดับความสว่างสี และความอิ่มสีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับฉากหลังว่าสว่างหรือมืดมากน้อยเพียงใด EMUI10 จะมีโหมดมืดที่สามารถปรับสมดุลย์ของความต่างสีระหว่างข้อความและพื้นหลังโทนมืด สีตัวอักษร และไอคอนระบบ เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกสบายตา และสามารถใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ได้ง่ายขึ้น

 สัมผัสประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในการใช้งานข้ามอุปกรณ์

EMUI10 พัฒนาขึ้นจากรากฐานของเทคโนโลยีซอฟต์แวร์แบบ Distributed เพื่อคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น การรองรับวีดีโอคอลล์ความละเอียด HD บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโทรศัพท์หรือวีดีโอคอลล์ได้จากทุกที่และทุกเวลา หากมีสายเข้า ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะรับสายโดยใช้ลำโพงอัจฉริยะ สมาร์ททีวีหรือแม้แต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ในรถ ทำได้แม้กระทั่งการรับสัญญาณสดจากโดรนเพื่อแบ่งปันช่วงเวลาสำคัญกับสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง แนวคิดนี้ ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจ เนื่องจากเทคโนโลยีซอฟต์แวร์แบบ distributed ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ได้ง่ายดายด้วยการลากและวางอีกด้วย

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังพัฒนาคุณสมบัติด้านความปลอดภัยโดยใช้พื้นฐานของแนวคิดซอฟต์แวร์แบบ Distributed เพื่อให้ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ สิ่งที่หัวเว่ยพัฒนาเพื่อยกระดับความปลอดภัยคือการใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์   ที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นเอง รวมไปถึงการใช้สถาปัตยกรรมชิพและเคอร์เนลระบบเป็นพื้นฐานของระบบรักษาความปลอดภัยและระบบยืนยันต่างๆ โดยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ จะทำได้เมื่อผู้ใช้อนุญาตเท่านั้น และการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ จะเป็นแบบเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล

ปัจจุบันมีสมาร์ทดีไวซ์หลากหลายประเภทมากขึ้นทั้งสมาร์ทโฟนและสมาร์ททีวี  อีโคซิสเต็มของแอปพลิเคชันต่างๆ ก็แผ่ขยายมากยิ่งขึ้น จำนวนอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์และแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้มีก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ผู้ใช้งานจึงคาดหวังจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่เหมือนกันไม่ว่าจะใช้งานในอุปกรณ์ใด และต้องการเข้าถึงบริการประเภทเดียวกันได้ตลอดทุกที่ นับเป็นเรื่องสำคัญที่นักพัฒนาจะต้องพัฒนาแอปพลิเคชันของตนให้รองรับหลายภาษา รองรับการทำงานกับอุปกรณ์ที่หลากหลาย และผสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว

harmonyosemui10mediabrie_1

คอนเฟิร์ม HUAWEI P30 Series จะได้รับอัพเดท EMUI10 ก่อน และจะปล่อยอัพเดทให้แก่รุ่นอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ สมาร์ทโฟน HUAWEI P30 Series จะได้รับการอัพเดท EMUI10 รุ่นเบต้าก่อน ในวันที่ 8 กันยายน และ   สมาร์ทโฟน HUAWEI Mate20 Series จะได้รับการอัพเดทในลำดับต่อมา

ทั้งนี้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS และซอฟต์แวร์ EMUI10 จะช่วยเชื่อมโยงอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์กับแอปพลิเคชั่นต่างๆ เข้าด้วยกัน สร้าง EcoSystem ที่สมบูรณ์แบบให้แก่ผลิตภัณฑ์หัวเว่ย พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้แก่ผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ยังเชื่อมั่นได้ว่าทีมพัฒนาเทคโนโลยีของหัวเว่ย พร้อมจะผสานความร่วมมือกับทั้งพันธมิตรทางธุรกิจรวมถึงนักพัฒนาทั่วโลกเพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดสู่ผู้บริโภค

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook