5 วิธีปกป้องตัวเอง และลูกหลาน จากโรคมือ เท้า ปาก

5 วิธีปกป้องตัวเอง และลูกหลาน จากโรคมือ เท้า ปาก

5 วิธีปกป้องตัวเอง และลูกหลาน จากโรคมือ เท้า ปาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อากาศเปลี่ยนแปลง มาพร้อมโรคติดต่อที่มักทำให้ทีมแพทย์ และพยาบาลต้องกุมขมับกันตลอดเวลา หนึ่งในนั้นที่ระบาดกันอยู่ทุกปี คือโรคมือ เท้า ปาก โรคติดต่อที่ทำให้มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น และส่วนใหญ่ผู้โชคร้ายคือเหล่าเด็กตัวเล็กๆ ที่อาจติดเชื้อกันไปมาจากสถานเลี้ยงเด็ก หรือเพื่อนๆ ในโรงเรียน

 

โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อกันได้อย่างไร?

โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าทางปากโดยตรง เชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพองหรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จามรดกัน

 

อันตรายของโรค มือ เท้า ปาก

โรคมือ เท้า ปากไม่มียารักษา ไม่มีวัคซีน จะรักษาตามอาการ ส่วนใหญ่จะหายได้เองใน 7-10 วัน อย่างไรก็ตาม หากเด็กมีอาการแทรกซ้อน เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียน หอบ ต้องรีบนำไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที เพราะอาจติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์รุนแรง เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้มากกว่าสายพันธุ์ปกติ

 

วิธีปกป้องตัวเอง และลูกหลาน จากโรคมือ เท้า ปาก

ในกรณีที่เราเปฌนครู ผู้ปกครอง หรือทำงานใกล้ชิดกับเด็ก เราต้องช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมือ เท้า ปาก จากเด็ดสู่เด็ก และจากเด็กสู่ผู้ใหญ่ด้วย (ผู้ใหญ่บางรายอาจติดเชื้อได้หากภูมิต้านทานร่างกายไม่แข็งแรงมากพอ)

  1. หมั่นสังเกตอาการของเด็ก ก่อนนำเด็กเข้ามานั่งเรียน นั่งทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ หากพบเด็กที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ให้รีบแยกตัวออกมาจากกลุ่มเด็กคนอื่นๆ ให้ผู้ปกครองรับตัวกลับไปรักษาที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ

  2. สอนเด็กให้ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ โดยเฉพาะการล้างมือก่อนทานอาหาร และหลังใช้ห้องน้ำ

  3. ในสถานศึกษาควรจัดให้มีอุปกรณ์ทำความสะอาดมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสบู่เหลว หรือเจลแอลกอฮอล์

  4. สอนให้เด็กไม่ทานอาหารจากช้อนคันเดียวกันกับเพื่อน

  5. ผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็กที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ก็ควรระมัดระวังไม่สัมผัส หรือหายใจใกล้เด็ก เพราะแม้ว่าจะมีโอกาสน้อยมาก แต่ผู้ใหญ่บางคนก็เป็นโรคมือ เท้า ปาก ได้เหมือนกัน และอาจจะมีอาการรุนแรงกว่ามากด้วย เช่น เล็กหลุด ผมร่วง แผลที่มือและเท้าพองบวมจนไม่สามารถหยิบจับ หรือเดินได้สะดวก เป็นต้น

 

หากพบเด็กที่มีไข้ ผื่น ตุ่มน้ำใส หรือเม็ดแดงๆ ในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือก้น หรือแม้กระทั่งตัวคุณเองที่ทราบดีว่าเข้าใกล้กับเด็กที่มีอาการเหล่านี้หรือไม่ และสังเกตเห็นตุ่มแดงๆ ที่ฝ่ามือ อย่านิ่งนอนใจ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน และอย่าลืมให้เด็กใช้หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook