4 อาหารคลีน มีประโยชน์ แต่เสี่ยงอันตราย
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/he/0/ud/1/9373/clean-food.jpg4 อาหารคลีน มีประโยชน์ แต่เสี่ยงอันตราย

    4 อาหารคลีน มีประโยชน์ แต่เสี่ยงอันตราย

    2018-01-08T18:00:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    กระแสการทานอาหารคลีนยังคงมีมาให้เราเลือกทานกันอยู่เรื่อยๆ แถมยังมีหลากหลายเมนูสร้างสรรค์มากขึ้นอีกด้วย ทำให้ผู้ที่ทานอาหารคลีนไม่รู้สึกเบื่อ หรือรู้สึกว่าต้องทานแต่อาหารเดิมๆ ซ้ำซากจำเจอย่างเดียว แต่ก็มีอาหารคลีนบางอย่างที่ประโยชน์ดีๆ กลับมาพร้อมกับโทษอันตรายโดยที่เราไม่รู้ตัว

     

    อาหารคลีน มีประโยชน์ แต่เสี่ยงอันตราย

    1. สลัดผัก

    สำหรับคนที่รักการทานอาหารคลีนเป็นชีวิตจิตใจ แต่มีเวลาน้อย อาจจะซื้อสลัดผักทานจากร้านอาหารข้างนอกมากกว่าจะซื้อผักมาล้างทำความสะอาด และหั่นทานเอง เพราะนอกจากจะสะดวกกว่าแล้ว การทานสลัดผักเป็นกล่องๆ ถุงๆ ให้หมดไปเป็นครั้งๆ ก็จะทำให้ไม่เหลือผักจำนวนมากค้างไว้ในตู้เย็นจนเน่าเสีย แต่สลัดผักแฝงอันตรายจากผักสดที่ผู้ผลิตอาจล้างไม่สะอาดเพียงพอ อาจพบสารเคมีตกค้างจากยาฆ่าแมลง สารตกค้างจากปุ๋ยคอกที่มากับมูลสัตว์ ที่อาจก่อให้เกิดอาการท้องร่วง ท้องเสีย รวมไปถึงผักที่หั่นทิ้งเอาไว้นาน จนเกิดน้ำขุ่นๆ ที่ก้นถุง ก้นกล่อง หรือก้นถาดในสลัดบาร์ อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อซาลโมเนลลา ที่ทำให้เรามีอาการท้องเสีย อุจจาระร่วงได้เช่นกัน

     

    ทานสลัดอย่างไรให้ปลอดภัย

    เลือกซื้อผักจากแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ ล้างผักให้สะอาดก่อนหั่นทานสดๆ เป็นครั้งๆ มื้อๆ ไป โดยล้างผ่านน้ำก๊อกนาน 2 นาที ถ้ามีส่วนที่เป็นใบให้เด็ดใบออกมาล้างน้ำทีละใบ สามารถล้าง หรือแช่ในน้ำเปล่าผสมน้ำเกลือ หรือน้ำส้มสายชูได้ (แช่เอาไว้ 10-15 นาที ก่อนนำมาล้างน้ำเปล่าอีกครั้ง) และหากสามารถเลี่ยงไปทานผักที่ปรุงสุกได้ ก็จะช่วยลดอันตรายที่เกิดจากผักสดได้มากยิ่งขึ้น

     

    1. เมล็ดเจีย

    ยังคงเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดที่หลายคนพยายามหามาทานกันบ่อยๆ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อต่อร่างกายมากมาย ทั้งกรดไขมันดี โอเมก้า-3 โอเมก้า-6 แคลเซียม สารต้านอนุมูลอิสระโปรตีน และกากใยอาหารที่ทำให้เราขับถ่ายคล่อง แต่เมล็ดเจียไม่ได้เหมาะกับทุกคน

    เมล็ดเจียไม่เหมาะกับบุคคลเหล่านี้

    - ผู้ที่มีปัญหาในระบบกระเพาะอาหาร และลำไส้ เพราะเมล็ดเจียจะไปเร่งให้ตับอ่อนผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น

    - คนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือทานยาแอสไพริน เพราะเมล็ดเจียอาจทำให้เกิดภาวะเลือดแข็งตัวช้า หรือเลือดไหลไม่หยุดได้

    - หญิงตั้งครรภ์ เพราะจะส่งผลให้สารอาหารในน้ำนมเปลี่ยนไป

    - ผู้ชายที่มีปัญหาที่ต่อมลูกหมาก เพราะอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก

    - ผู้ที่ทานวิตามินบี 17 เป็นอาหารเสริม เพราะจะยิ่งเพิ่มปริมาณวิตามินชนิดนี้ในร่างกายมากเกินไป จนกลายเป็นสารพิษ และเป็นมะเร็งในที่สุด

    ทานเมล็ดเจียอย่างไรให้ปลอดภัย

    ผู้ที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงตามที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นควรหลีกเลี่ยงการทานเมล็ดเจีย ส่วนผู้ที่มีร่างกายปกติสมบูรณ์แข็งแรงดี ไม่ควรทานเมล็ดเจียมากเกินไป หรือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป เพราะร่างกายอาจเกิดการเสพติดได้ โดยอาจจะทานเมล็ดเจียในบางมื้ออาหาร 2-3 อาทิตย์ต่อมื้อ เท่านั้นก็เพียงพอ

     

    1. ผลไม้รสเปรี้ยว

    ใครที่ทานอาหารคลีนก็คงจะเลือกทานผักผลไม้มากขึ้นเป็นธรรมดา แต่ถ้าทานผลไม้รสเปรี้ยว ที่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากเกินไป เช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง จนทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีมากกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน อาจทำให้เสี่ยงโรคนิ่วในไตได้ นอกจากนี้หากร่างกายได้รับวิตามินซีมากกว่า 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ยังส่งผลเสียต่อระบบขับถ่ายได้อีกด้วย

    ทานผลไม้รสเปรี้ยวอย่างไรให้ปลอดภัย

    เลือกทานในจำนวนที่พอเหมาะ ไม่ทานมากจนเกินไป เช่น ส้มไม่ควรทานเกินวันละ 3 ผล นอกจากนี้เราควรเลือกทานผลไม้ให้หลากหลาย เพื่อให้ได้ทั้งรสชาติ และสารอาหารที่หลากหลายตามไปด้วย

     

    1. กราโนล่า

    ไม่ใช่ว่ากราโนล่ามีอันตรายอะไรร้ายแรง แต่เพราะกราโนล่าเป็นอาหารของใครหลายๆ คนที่อยากผอม จึงเลือกทานกราโนล่าในหลายๆ มื้อ และอาจเผลอทานจำนวนมาก (ต่อหนึ่งมื้อ) ด้วยเพราะคิดว่ากราโนล่าไม่ทำให้อ้วน แต่อันที่จริงแล้วกราโนล่าทำมาจากข้าวโอ๊ต บวกธัญพืชอื่นๆ ที่ถึงแม้จะมีประโยชน์ แต่ก็เป็นอาหารที่ให้พลังงานอยู่ดี แถมยังเป็นอาหารที่ทานเพียงปริมาณน้อยๆ แต่ให้พลังงานสูงอีกด้วย กราโนล่าราวๆ 40-50 กรัม จะมีคาร์โบไฮเดรตราวๆ 25 กรัม และสารอาหารอื่นๆ เช่น ไขมัน 10 กรัม และโปรตีนอีก 5 กรัม ซึ่งทั้งหมดนี้ให้พลังงานใกล้เคียงกับข้าวหุงสุก 1 จาน (100 กรัม) เลยทีเดียว

    ทานกราโนล่าอย่างไรให้ปลอดภัย

    ควรจำกัดปริมาณในการทานกราโนล่าให้เหมาะสม ทานพออิ่ม ไม่ทานเยอะจนเกินไป เลือกชนิดของกราโนล่าที่ใส่แต่ธัญพืชที่ดีมีประโยชน์ ไม่มีส่วนผสมอื่นๆ ที่ผสมน้ำตาลมากเกินไป จะช่วยให้ควบคุมปริมาณแคลอรี่ได้ง่ายยิ่งขึ้น และควรเลือกทานอาหารให้หลากหลาย ไม่ทานแต่กราโนล่าเพียงอย่างเดียว

     

    จะเห็นได้ว่าอาหารดังกล่าวล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย และผู้คนนิยมทานกันมากทั้งสิ้น แต่ไม่ว่าอาหารเหล่านั้นจะมีประโยชน์มากแค่ไหนก็ตาม เราควรเลือกทานในปริมาณที่พอเหมาะ และเลือกทานอาหารให้หลากหลาย ไม่ทานอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งนานจนเกินไป เพราะต่อให้มีประโยชน์มากแค่ไหน ก็ให้โทษกับร่างกายเราได้อยู่ดี

    ขอขอบคุณ

    ภาพ :iStock