อันตราย! อาหารเสริมลดความอ้วน เสี่ยงตับพัง-เสียชีวิต

เฟซบุ๊คเพจ Drama-Addict เปิดเผยเรื่องราวของผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่สมัครเข้าโครงการลดน้ำหนักกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเจ้าหนึ่ง นอกจากจะเตรียมอาหารเสริม และวิตามินอื่นๆ อีกมากมายแล้ว ยังยืนยันว่ามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลสุขภาพให้ตลอดระยะเวลาที่ร่วมโครงการ

หลังจากผู้ใหญ่ท่านนี้ทำตามคำแนะนำของแพทย์ คือ ทานอาหารเสริมกับวิตามินเป็นอาหารเช้า มื้อกลางวันทานอาหารคลีน และมื้อเย็นทานอาหารเสริมแทนข้าว ทำให้ผู้ใหญ่ท่านนั่นน้ำหนักลดลงอย่างชัดเจนถึง 5 กิโลกรัม จึงทานแบบนี้เรื่อยมาติดต่อกันตลอด 2 ปี

แต่แล้ว สุดท้าย ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็ล้มป่วยลงกะทันหัน เหตุเพราะ “ตับอักเสบ” เมื่อแพทย์ที่โรงพยาบาลสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเธอ ปรากฏว่าแพทย์สั่งให้ “เลิกทานอาหารเสริมเหล่านี้เด็ดขาด”

 istockphoto

อาหารเสริมที่มีฟรุคโตส อันตรายอย่างไร?

น้ำตาล “ฟรุคโตส” ในอาหารเสริม ที่มักโฆษณาว่า ฟรุคโตส เป็นน้ำตาลที่ดีกว่า “กลูโคส” เพราะร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ช้ากว่า ทานแล้วค่าน้ำตาลในเลือดขึ้นช้า แม้กระทั่งผู้ป่วยเบาหวานก็ทานได้ แต่ความจริงแล้วฟรุคโตสก็มีข้อควรระวังในการทานเหมือนกัน

 

ฟรุคโตส อันตราย?

ซึ่งจริงๆ แล้ว ฟรุคโตส เป็นน้ำตาลที่เราสามารถพบได้ทั่วไปในผลไม้ต่างๆ รวมถึงน้ำผึ้ง หากทานในปริมาณปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่อันตรายแฝงที่มากับ ฟรุคโตส คือ หากทานมากเกินไป ทานเป็นประจำทุกวัน ทานทุกมื้อแทนข้าว ตับจะทำงานหนักมากเกินไป เพราะกว่าที่ร่างกายจะนำฟรุคโตสไปใช้งานได้ ต้องผ่านตับก่อน หากทานฟรุคโตสมากเกินไป เท่ากับเป็นการใช้งานตับมากเกินไปด้วย ไม่เหมือนกับน้ำตาลกลูโคสที่ร่างกายดูดซึม แล้วนำไปใช้ได้เลย ไม่ต้องผ่านตับ และเมื่อตับทำงานหนักมากเกินไป อาจทำให้เป็นโรคตับอักเสบ จนนำไปสู่ปัญหา ตับแข็ง ในเวลาต่อมา และอาจถึงเสียชีวิตได้

อย่างไรก็ตาม การดูว่าฟรุคโตสในผลิตภัณฑ์นั้นๆ จะสูงเกินไปหรือไม่อย่างไร ก็เป็นเรื่องยาก และผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากการทานอาหารเสริมที่มีฟรุคโตสในแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคนเป็นทุนเดิม ดังนั้นก่อนทานอาหารเสริมใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในโรงพยาบาลก่อนจะดีที่สุดค่ะ

 

ดังนั้น ก่อนซื้ออาหารเสริม หรือเข้าคอร์สลดน้ำหนักใดๆ พลิกมองหาฉลากกำกับส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ แล้วมองหาสัดส่วนของ “ฟรุคโตส” ให้ดีค่ะ และไม่ควรทานอาหารเสริมชนิดใดๆ ติดต่อกันนานเกินไป เพราะนอกจากจะเสี่ยงขาดสารอาหารแล้ว ยังอาจรับสารอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายโดยที่คุณไม่รู้ตัวด้วย ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ หรือนักโภชนาการก่อนทานทุกครั้ง เพื่อจำกัดปริมาณที่ทานอย่างถูกต้องจะดีกว่าค่ะ

หากอยากลดน้ำหนัก วิธีที่ดีที่สุด คือการควบคุมอาหาร ลดการทานอาหารที่มีไขมันไม่ดีสูง ลดการทานแป้งและน้ำตาล ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมน้ำหนักที่ตรงค่ามาตรฐานก็เป็นของคุณแล้วค่ะ