ถอดบทเรียน#2 ขบวนการตากอากาศ

     และแล้วก็เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของ “ขบวนการตากอากาศ” รายการเรียลลิตี้สำหรับทุกคนในครอบครัว สัปดาห์นี้ยังคงอยู่กับความสนุกสนานและสาระดีๆ จากเรื่องราวของน้องอิ๊ค และน้องจีโน่ สองหนุ่มน้อยที่แม้จะมาจากสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็เหมือนกันตรงที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับการมอบ “เวลาคุณภาพ” และกระตุ้นการเรียนรู้ด้วย “ประสบการณ์จากโลกกว้าง” ให้กับลูกอยู่เสมอ

     เชื่อแน่ว่าใครที่ได้ดูรายการนี้จะต้องอมยิ้มไปกับความน่ารักไร้เดียงสาของเด็กน้อยทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นพี่อิ๊คของเราที่สัปดาห์นี้ได้มีโอกาสไปเที่ยวแคมป์ปิ้งจริงๆเสียทีหลังจากซ้อมกางเต็นท์จากผ้าห่มและหมอนข้างเกือบทุกคืน ส่วนน้องจีโน่ก็ช่างแสนสุขกับการเล่นและได้เรียนรู้อะไรมากมายในบ้านสวน แถมได้โควต้าจากคุณพ่อคุณแม่ไปเปิดโลกกว้างที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติใกล้บ้านอีกด้วย

     สำหรับบทเรียนจากรายการที่เรานำมาฝากในคราวนี้จะตรงใจคุณผู้ชมกันมากน้อยแค่ไหน ไปอ่านกันเลยจ้า! ลับเฉพาะคนรู้ใจ...ในครอบครัว

     ไม่มีใครจะรู้จักและรู้ใจลูกมากไปกว่าคนใกล้ตัวอย่างคุณพ่อคุณแม่อีกแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นง่ายๆในวันเดียว แต่ต้องผ่านการสังเกตอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เปรียบเสมือนกับการหยอดกระปุกที่ยิ่งหยอดมากก็ยิ่งได้ข้อมูลมาก และต้องใช้เวลาค่อยๆสะสมไป เริ่มหยอดกระปุกได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกลืมตามาดูโลกกันเลย!

     น้องอิ๊คของเรามักจะขี้อายไม่กล้าคุยกับคนที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งคาดกันว่ามาจากการที่ถูกขู่ให้กลัวเรื่องอันตรายของคนแปลกหน้ามาก่อน คุณพ่อคุณแม่อยากแก้ตัวก็เลยหาโอกาสสร้างสถานการณ์ให้อิ๊คได้ฝึกความกล้าอยู่เสมอ (เช่น ส่งไปขอถ่านติดไฟจากเต็นท์อื่น) เป็นเรื่องดีที่คุณพ่อคุณแม่มีความเข้าใจ และพยายามออกแบบการเรียนรู้ให้กับลูกโดย ไม่บังคับกดดันจนเกินไป ไม่หวังผลแบบฉับพลันทันใจ ลูกทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆ คอยสังเกตผลลัพธ์ เป็นกองหนุนคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ และไม่ลืมที่จะชื่นชมเมื่อลูกทำได้ดีขึ้น

     ถึงตรงนี้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกขี้อายอาจจะเริ่มเหงื่อตก “เอ๊ะ…เราก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน แต่ลูกก็ยังไม่ค่อยกล้าอยู่ดี” โปรดวางถุงนมลงก่อนแล้วฟังทางนี้…หลายๆอย่างที่กังวลเกี่ยวกับลูก บางทีมาจาก “ความแตกต่างหลากหลาย” ตามธรรมชาติของมนุษย์ เด็กบางคนอาจจะมีนิสัยเงียบๆ ช่างคิด หรือบางคนช่างพูดช่างคุยกล้าแสดงออก ไม่ต่างจากผู้ใหญ่ที่แต่ละคนก็มีนิสัยและความถนัดที่แตกต่างกันไป

     ถ้าเช็คแล้วว่าลูกมีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์และสติปัญญาปกติดีตามวัย คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกลุ้มใจไป แค่เปิดใจยอมรับธรรมชาติและตัวตนของลูกด้วยความเข้าใจ คอยสนับสนุนส่งเสริมเท่าที่เราจะทำได้ หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น ขณะเดียวกันก็ต้องไม่หวั่นไหวตามคำพูดของคนรอบข้างที่มักจะเข้ามาทักโน่นนี่ให้เราไขว้เขว และที่สำคัญก็คือ ความสามารถบางอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงไปตามวัย เรื่องบางอย่างลูกยังทำไม่ได้ในตอนนี้ แต่พอโตขึ้นลูกก็อาจจะทำได้เองจ้า

     ตัดกลับมาที่น้องจีโน่ ผู้ชอบเล่นรถเป็นชีวิตจิตใจ เรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่รู้และเข้าใจดี เลยคิด ต่อยอด ไปสู่บททดสอบบางอย่าง โดยให้ทีมงานแอบวางรถของเล่นที่ไม่ใช่ของน้องจีโน่ไว้บนทางเดินเพื่อรอดูปฏิกิริยา ซึ่งผลก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจจนคุณแม่ยิ้มแก้มปริ เพราะจีโน่สามารถ “ก้าวข้าม” การครอบครองสิ่งของที่ไม่ใช่ของตัวเองไปได้สำเร็จ (แม้มันจะยั่วยวนใจมากก็ตาม) เป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่พิสูจน์ให้เห็นถึงผลลัพธ์ของการที่พ่อแม่คอยสังเกตใส่ใจและปลูกฝังทัศนคติที่ดีให้ลูกทุกวัน เพื่อวันหนึ่งข้างหน้าเราจะได้ส่งบุคคลคุณภาพออกไปใช้ชีวิตในสังคม

ไม่ต้องไปไกล...ก็เรียนรู้ได้มาก
     บ้านของน้องจีโน่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า เวลาคุณภาพและการเรียนรู้โลกกว้างนั้นไม่จำเป็นต้องไปไหนไกล แต่มาจากเรื่องใกล้ๆตัวในชีวิตประจำวันนี่เอง คุณพ่อคุณแม่เปิดโอกาสให้น้องจีโน่เรียนรู้ผ่าน “การเล่น” ผสมผสาน “การช่วยเหลือพ่อแม่ทำงาน” ชวนทำกิจกรรมง่ายๆ อย่างหยิบของส่งของ เก็บไข่ ไปทำสวนฯลฯ โชคดีของน้องจีโน่จริงๆที่ได้ย้ายมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ อากาศดี มีที่กว้างๆให้วิ่งเล่น และมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้อยู่รอบตัว แถมยังได้ฝึกพูดสองภาษาด้วย (ภาษาเด็กกับภาษาไก่ อิอิ)

     การให้ลูกได้ช่วยเหลืองานในบ้าน (โดยเลือกให้เหมาะสมตามวัย) เป็นการปลูกฝังวินัยเชิงบวกที่จะซึมซับเข้าไปในตัวลูกอย่างเป็นธรรมชาติ และการได้ปล่อยให้ลูกได้สนุกกับการได้ทำอะไรด้วยตัวเองจะทำให้เด็กเกิดความมั่นใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง (Self-esteem) เป็นกิจกรรมที่ถือว่า “วิน-วิน” ได้ประโยชน์ทั้งครอบครัว!

เวลาคุณภาพ...ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
     พ่อแม่ผู้ปกครองผู้น่ารักหลายท่านมักเข้าใจผิดคิดไปว่า “เวลาคุณภาพ” ที่ให้กับลูกนั้นจะต้องจับคู่กับความ “สมบูรณ์แบบ” จนรู้สึกว่ามันยาก หรือกลายเป็นไม่มีความสุขเวลาที่แผนที่วางไว้ล้มเหลว แต่! ในความเป็นจริง กระบวนการเรียนรู้อาจจะมาจากการเผชิญอุปสรรคและปัญหาก็ได้

     จากทริปแคมป์ปิ้งของน้องอิ๊ค จะเห็นว่ามีสถานการณ์ที่ ไม่สมบูรณ์แบบ เกิดขึ้นอยู่ตลอด แต่ทั้งครอบครัวก็สามารถจัดการได้อย่างน่ารักน่าลุ้น และเกิดการเรียนรู้ได้อย่างน่าชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นตอนที่จุดเตาไฟไม่สำเร็จ หรือการทำไข่เจียวสไตล์ปิกนิกที่แม้จะไม่อร่อยดั่งใจ แต่ประสบการณ์ระหว่างทางต่างหากที่สำคัญกว่าผลลัพธ์ แววตาของเด็กน้อยที่จับจ้องตั้งแต่พ่อจุดเตา ตั้งกระทะ ตอกไข่ เจียวไข่ ท่ามกลางบรรยากาศแคมป์ปิ้งหน้าเต็นท์ที่พักยามเช้า...เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม!

     ความไม่สมบูรณ์แบบนั้นซ่อนบทเรียนชีวิตไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการอดทนรอคอย การเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆ การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับโลกโดยไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง และที่สำคัญคือสายใยผูกพันที่เกิดขึ้นจากการได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างใกล้ชิดของสมาชิกในครอบครัว “เวลาคุณภาพ” เป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวที่ทุกคนทำได้และสร้างได้ทุกวัน!

     ติดตามเรื่องราวแสนน่ารักของเด็กๆ กับการเรียนรู้ผ่านการผจญภัยในโลกกว้าง พร้อมสอดแทรกเคล็ดลับของ “สิ่งเล็กๆที่สร้างลูก”จากหลากหลายครอบครัวได้อีกในรายการ “ขบวนการตากอากาศ” ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 8.15-8.45 น. ทางช่อง 28 (3SD) สัปดาห์หน้าจะเป็นครอบครัวใหม่ครอบครัวใดรอชมกัน

 

 

[Advertorial]