“ไส้เลื่อนนักกีฬา” คืออะไร อันตรายแค่ไหน?

“ไส้เลื่อนนักกีฬา” คืออะไร อันตรายแค่ไหน?

“ไส้เลื่อนนักกีฬา” คืออะไร อันตรายแค่ไหน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไส้เลื่อนเป็นอีกปัญหากวนใจที่พบบ่อยในนักกีฬาหรือผู้ที่มีการออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ โดยไส้เลื่อนนักกีฬาจะมีความคล้ายคลึงกับไส้เลื่อนขาหนีบ แต่มีวิธีการรักษาและอาการบาดเจ็บที่แตกต่างกัน ฉะนั้นแล้วการรู้เท่าทันเพื่อที่จะสามารถรับมือได้อย่างถูกต้องเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรละเลย

โรคไส้เลื่อนนักกีฬา (Sports Hernia) คืออะไร?

นายแพทย์ชนินทร์ ปั้นดี ศัลยแพทย์ด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า โรคไส้เลื่อนนักกีฬา (Sports Hernia) หรือไส้เลื่อนฮ็อกกี้ มีอาการคล้ายไส้เลื่อนแต่ไม่มีการเลื่อนของลำไส้ออกนอกช่องท้อง สามารถพบได้มากในกลุ่มนักกีฬาที่มีการวิ่งเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว หรือมีการเคลื่อนไหวบิดหมุนบริเวณข้อต่อสะโพกอย่างรุนแรง เช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล วิ่ง กระโดดสูง เบสบอล ฟันดาบ ฮ็อกกี้น้ำแข็ง มวยปล้ำ เป็นต้น ที่จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อขาหนีบ (Adductor) ช่องท้องส่วนล่างของนักกีฬา 

สาเหตุของโรคไส้เลื่อนนักกีฬา

โรคไส้เลื่อนนักกีฬา พบได้บ่อยในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง สาเหตุของโรคไส้เลื่อนนักกีฬาเกิดจากความอ่อนแอของกล้ามเนื้อในช่องท้องส่วนล่างบริเวณขาหนีบและข้อต่อสะโพกที่มีการใช้งานหนัก หรือความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อขาหนีบที่มีแรงตึงมากกว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องด้านล่าง ทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อและการฉีกขาดของเส้นประสาทบริเวณขาหนีบ 

อาการของโรคไส้เลื่อนนักกีฬา

ลักษณะอาการไส้เลื่อนนักกีฬา จะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป มีอาการสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวโดยไม่มีการเลื่อนของลำไส้ โดยมีอาการที่สังเกตได้ ดังนี้

  • ปวดหรือเจ็บแบบเสียดๆ ท้องน้อยส่วนล่าง ขาหนีบ อัณฑะ ต้นขา ขณะออกกำลังกายหรือซิทอัพ และ/หรือมีอาการขณะจามแรงๆ 
  • ส่วนไส้เลื่อนขาหนีบจะมีอาการปวดจุกขาหนีบที่มีความสัมพันธ์กับก้อนขาหนีบ รู้สึกมีก้อนเข้าออกได้บริเวณขาหนีบ มักมีอาการขณะลุกขึ้นหลังจากนอนหรือนั่ง ขณะไอ จาม หรือเบ่งอุจจาระ อาการจะเป็นๆ หายๆ เนื่องจากอาการที่คล้ายกันและทับซ้อนกับโรคอื่นๆ เช่น Osteitis Pubis การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังส่วนเอว ข้อต่อสะโพก ช่องท้อง และระบบทางเดินปัสสาวะ

การตรวจวินิจฉัย และวิธีรักษาโรคไส้เลื่อนนักกีฬา

การตรวจวินิจฉัยจะต้องซักประวัติอาการของผู้ป่วยทางคลินิก การตรวจร่างกายร่วมกับการตรวจ MRI เพื่อตรวจแยกรอยโรคที่ต่างกัน นอกจากนี้นักกีฬาหลายคนอาจมีกล้ามเนื้อขาหนีบอ่อนแรงหรือเกิดการฉีกขาด อาจส่งผลให้ Sports Hernia พัฒนาเป็นไส้เลื่อนในช่องท้องได้หากกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องอ่อนแอลงอีก

ขั้นตอนการรักษาสามารถรักษา 2 แบบ

  1. การรักษาแบบประคับประคอง ด้วยการพักการใช้งานของกล้ามเนื้อบริเวณขาหนีบหรือหยุดกิจกรรม ประคบเย็น กระตุ้นด้วยไฟฟ้า ทานยาแก้ปวดลดบวม ฉีดยา กายภาพบำบัด เสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานโดยการบริหารกล้ามเนื้อขาหนีบให้แข็งแรง การฝึก Hip Adduction หรือการนอนในท่าคว่ำโดยให้งอสะโพกด้านที่มีอาการและหมุนออกด้าน 
  2. หากทำการรักษาแบบประคับประคองแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นใน 6-8 สัปดาห์ โดยเฉพาะในนักกีฬาอาชีพ การผ่าตัดแบบเปิดหรือการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก (Herniorharrphy) ด้วยการเสริมความแข็งแรงของผนังช่องท้องโดยการเสริมตาข่าย  Mesh Repair แผ่นสารสังเคราะห์เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อผนังหน้าท้อง หรืออาจร่วมกับการซ่อมแซมกล้ามเนื้อขาหนีบที่มีปัญหาในกรณีที่มีสาเหตุจากความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อขาหนีบ 

หลังผ่าตัดจะมีอาการตึงแผลบริเวณขาหนีบเล็กน้อย ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน หลังผ่าตัดต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้มีแรงดันในช่องท้องสูงในช่วง 4-6 สัปดาห์แรก เช่น ห้ามยกของหนักหรือออกกำลังกายหักโหม หลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระหรือปัสสาวะ และหลีกเลี่ยงการบิดและหมุนลำตัวอย่างกะทันหัน

โรคไส้เลื่อนนักกีฬาเป็นอาการที่ไม่สามารถชะล่าใจได้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้อักเสบเรื้อรังจนรุนแรง ควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกาย หากมีอาการควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาให้ถูกต้องทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook