ทำไมกิน “ทุเรียน” มาก ถึงเสี่ยง “ร้อนใน”
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/he/0/ud/5/28685/durian.jpgทำไมกิน “ทุเรียน” มาก ถึงเสี่ยง “ร้อนใน”

    ทำไมกิน “ทุเรียน” มาก ถึงเสี่ยง “ร้อนใน”

    2021-05-23T06:00:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ทุเรียนที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชาแห่งผลไม้” ถือเป็นผลไม้ยอดนิยมที่ขายดีตลอดกาล (ช่วงเดือนพ.ค-มิ.ย.) ที่ให้ทั้งคุณค่าทางอาหาร และพลังงานสูง โดยอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน รวมถึงแร่ธาตุหลายชนิดด้วย อาทิ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแคลเซียม แม้จะมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยบรรเทาอาการจุกเสียด บำรุงกำลัง และเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย แต่การบริโภคทุเรียนในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน 

    ทำไมกินทุเรียนถึงเป็นร้อนใน?

    เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่าทำไมถึงได้เป็น “ร้อนใน” กันง่ายๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าทุเรียนมีฤทธิ์ร้อน เมื่อรับประทานมากเกินไป จึงทำให้เกิดอาการร้อนใน หรือเป็นไข้ตัวร้อนได้ จึงมีคำแนะนำจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกว่า ควรดื่มน้ำสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เพื่อลดความร้อนและปรับสมดุลร่างกาย อาทิ น้ำมะพร้าว น้ำแตงโม น้ำใบเตย และน้ำย่านาง หรือจะรับประทานผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็นอย่างมังคุด ที่ได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้” ก็ได้เช่นกัน ซึ่งการรับประทานคู่กันช่วยให้ร่างกายเกิดความสมดุล และช่วยลดความร้อนในร่างกายได้

    ทำไมไม่ควรกินทุเรียนกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    การรับประทานทุเรียนพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าไม่ได้เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตอย่างที่เข้าใจกัน แต่ พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตรภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายไว้ว่า การรับประทานทุเรียนร่วมกับการดื่มเหล้ามีผลเสียกับร่างกาย ดังนี้

    • กระบวนการทำลายแอลกอฮอล์ไม่สมบูรณ์

    ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าสารประกอบซัลเฟอร์หรือกำมะถันที่มีปริมาณมากในทุเรียนสามารถยับยั้งการทํางานของเอนไซม์แอลดีไฮน์ดีไฮโดรจีเนส (ALDH) ส่งผลให้กระบวนการทําลายแอลกอฮอล์ในร่างกายไม่สมบูรณ์

    ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการคั่งของสารตัวกลาง เช่น อะเซตาดีไฮด์ ทําให้มีอาการไม่พึงประสงค์ได้ อาทิ  หน้าแดง เหงื่อออก คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ หายใจเร็ว แต่ส่วนใหญ่อาการดังกล่าวไม่ค่อยจะรุนแรง อย่างไรก็ตามในบางรายที่มีปฏิกิริยารุนแรงอาจจะทําให้เกิดภาวะหายใจลําบาก หัวใจล้มเหลว และอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

    • ร่างกายได้รับพลังงานสูง น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น

    เนื่องด้วยทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง โดยเนื้อทุเรียน 100 กรัมให้พลังงาน 150-160 แคลอรี่ ขณะเดียวกันเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองก็ให้พลังงานสูงเช่นกัน และดูดซึมได้อย่างรวดเร็วด้วย โดยแอลกอฮอล์ 1 กรัม ให้พลังงาน 7 แคลอรี่เทียบกับคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนที่ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ต่อกรัม และไขมันให้พลังงาน 9 แคลอรี่ต่อกรัม

    การรับประทานทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงทําให้ร่างกายได้รับพลังงานสูงอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะทําการย่อยอาหารทําให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้น น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และการดื่มแอลกอฮอล์ยังมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะด้วย ทำให้ร่างกายอาจมีภาวะขาดน้ำได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจําตัว เช่น เบาหวาน หรือต้องรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ก็อาจจะไปกระตุ้นให้เกิดภาวะขาดน้ำ น้ำตาลในเลือดสูงและเกลือแร่ผิดปกติได้

    กินทุเรียนอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

    หากต้องการกินทุเรียนให้ได้ประโยชน์และคุณค่าทางสารอาหารที่เหมาะสม นายแพทย์สราวุฒิ  บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย แนะนำว่าไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ด ไม่กินถี่ทุกวัน และลดอาหารกลุ่มข้าวแป้ง ของหวานในมื้อที่กินทุเรียนสูงถึง 520 – 780 กิโลแคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับกินข้าวมันไก่ 2 จาน หรือเท่ากับการกินอาหาร 2 มื้อ

    นอกจากนี้ ผู้ที่มีโรคประจำตัว อาทิ โรคไต  โรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังเรื่องการกินทุเรียนมากกว่าคนทั่วไปด้วย โดยให้กินในปริมาณน้อยกว่าคนปกติ และไม่บ่อย เพราะการกินทุเรียนปริมาณมากหรือกินบ่อยๆ นั้น จะส่งผลต่อปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือดของผู้ป่วยได้