อาการไวรัส RSV และวิธีป้องกันไวรัส RSV ในเด็ก โดยแพทย์จุฬาฯ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/he/0/ud/5/25951/child-sick.jpgอาการไวรัส RSV และวิธีป้องกันไวรัส RSV ในเด็ก โดยแพทย์จุฬาฯ

    อาการไวรัส RSV และวิธีป้องกันไวรัส RSV ในเด็ก โดยแพทย์จุฬาฯ

    2022-08-02T13:48:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ในฤดูหนาว ซึ่งสร้างความวิตกกังวลต่อพ่อแม่ ผู้ปกครองเกี่ยวกับการระบาดของโรคนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก พ่อแม่ควรหาทางป้องกันไม่ให้ลูกๆ ติดเชื้อไวรัส RSV นี้ ก่อนที่จะดูวิธีป้องกัน เรามาอ่านข้อมูลกัยก่อนว่า ไวรัส RSV คืออะไร และมีอาการอย่างไรกันค่ะ

    โรคไวรัส RSV คืออะไร

    ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงโรคไวรัส RSV ว่า ไม่ใช่โรคใหม่ เป็นโรคที่รู้จักกันมากว่า 50 ปีแล้วและเกิดขึ้นทุกปี เป็นโรคทางเดินหายใจที่พบบ่อยที่สุดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เกิดจากเชื้อไวรัส 2 ประเภท คือ RSV-A และ RSV-B ซึ่งในปีนี้มีการระบาดด้วยไวรัส RSV-A มากกว่า

    เด็กที่เป็นโรคนี้แล้วสามารถกลับมาเป็นได้อีกเพราะภูมิคุ้มกันไม่สามารถอยู่กับเด็กได้ตลอดไป การระบาดของโรคมักจะเกิดขึ้นในช่วงหลังโรงเรียนเปิดเรียน ซึ่งสถานการณ์การระบาดในปีนี้มีการเปิดเรียนช้ากว่าปกติ การระบาดจึงอยู่ในช่วงเดือนกันยายน จนถึงเดือนตุลาคมซึ่งพบการระบาดในเด็กเล็กจำนวนมาก โรค RSV ในเด็กส่วนใหญ่จะมีอาการไม่หนัก เด็กที่มีโรคทางเดินหายใจหรือโรคหอบหืดจะทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้

    วิธีตรวจวินิจฉัยโรคไวรัส RSV

    วิธีการตรวจวินิจฉัยโรคนี้ทำได้ง่ายมาก เพียง 15 นาทีก็ทราบผลได้ทันที ทำให้โรคนี้ถูกกล่าวถึงกันมากขึ้น เพราะเป็นโรคที่พบบ่อยแต่ยังไม่มียารักษา ต้องรักษาไปตามอาการ นอกจากนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันอีกด้วย ซึ่งปัจจัยในการป้องกันโรคนั้นไม่ใช่แค่เพียงภูมิคุ้มกันเพียงอย่างเดียว

    ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส RSV จะมีอาการที่สามารถสังเกตได้ ดังนี้

    • อาการของผู้ป่วยเมื่อติดเชื้อไวรัส RSV มีอาการใกล้เคียงกับไข้หวัดธรรมดาค่อนข้างมาก เช่น มีไข้ ตัวร้อน ไอ จาม
    • ตัวเขียว
    • ไอหนักกว่าปกติ
    • หอบเหนื่อย
    • หายใจเร็ว หรือหายใจแรง จนหน้าอกบุ๋ม
    • มีเสมหะมาก
    • เด็กจะมีอาการซึมลง กินน้อยลง หรืออารมณ์ไม่ดีผิดปกติ

    วิธีป้องกันโรคไวรัส RSV

    มาตรการป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขอนามัยโดยเฉพาะเด็กเล็กเมื่ออยู่ในโรงเรียน การเรียนและนอนในห้องแอร์ทำให้เด็กมีการใกล้ชิดกัน อาจทำให้ติดโรคได้ง่าย ดังนั้นหากเด็กป่วยก็ไม่ควรให้มาโรงเรียน ห้องเรียนที่มีเด็กติดเชื้อ ก็ควรจะปิดห้องแล้วฆ่าเชื้อทำความสะอาดเสียก่อน

    • วิธีการป้องกันโรค RSV ทุกคนในบ้านควรหมั่นล้างมือให้สะอาด
    • ทำความสะอาดบ้านและของเล่นเป็นประจำสม่ำเสมอ
    • ไม่คลุกคลีกับเด็กที่เป็นหวัด
    • หลีกเลี่ยงการจูบและหอมแก้มเด็ก
    • ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
    • ไม่พาเด็กไปในที่สาธารณะหรือสถานที่แออัด

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ

    ภาพ :iStock