“งีบหลับ” ช่วงกลางวันอย่างไร ที่ช่วยเติมพลังงานได้จริง

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปแล้วว่า การงีบหลับในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ตอนกลางวัน สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานช่วงบ่ายได้มากขึ้นจริงๆ แต่ก็มีทริคเล็กน้อยที่จะช่วยให้การงีบหลับของคุณเป็นประโยชน์กับร่างกายได้จริง เพราะหากงีบหลับไม่ถูกวิธี งีบน้อยไปก็ไม่ได้ผล งีบมากไปกลางคืนอาจนอนไม่หลับได้

วิธี “งีบหลับ” ช่วยเพิ่มพลังงานระหว่างวันได้จริง

ช่วงระยะเวลาที่ควรงีบ

หากคิดจะงีบเพราะง่วงเกินกว่าจะทำงานต่อในตอนบ่ายได้ ควรเลือกเวลางีบตอน 13.00-16.00 น. แต่อยากแนะนำให้เป็นช่วง 13.00-14.00 น. ที่สุด เพราะหากงีบหลับช่วงเย็นมากเกินไป อาจรบกวนเวลานอนในตอนกลางคืน ทำให้นอนไม่หลับได้

งีบนานเท่าไรถึงจะดี

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า จุดสำคัญของการงีบเพิ่มพลัง อยู่ที่ความยาวนานในการงีบหลับ ควรงีบหลับราว 10-20 นาที จะสามารถตื่นขึ้นมาอย่างสดใสได้โดยไม่รู้สึกง่วงจนเกินไป หากงีบหลับเกิน 30 นาที จะเริ่มรู้สึกง่วงนอนมาก ไม่อยากตื่น มึนศีรษะเล็กน้อย รู้สึกว่ายังอยากหลับต่อ แต่หากบ่ายวันนั้นมีเวลางีบได้ยาวๆ จริงๆ สามารถงีบได้มากถึง 60-90 นาที เมื่อตื่นแล้วจะทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้อย่างเต็มที่ สมองตื่นตัวพร้อมทำงานมากขึ้น เหมือนกดป่มรีเซ็ตให้กับสมองเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการงีบหลับเกิน 90 นาที เพราะอาจส่งผลกระทบถึงการนอนหลับในตอนกลางคืนได้

สถานที่ในการงีบหลับก็สำคัญ

เข้าใจว่าถ้าง่วงมากๆ จะหลับตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่หากจะงีบในระยะเวลาสั้นๆ ให้ได้เต็มที่ ปราศจากการรบกวน ควรเลือกงีบหลับในห้องที่ไม่มีเสียงดังรบกวน แสงค่อนข้างมืด อุณหภูมิของห้องไม่ร้อนจนเกินไป และเลือกท่านอนให้เหมาะสม นอนบนพื้นราบมีหมอนหรือผ้านุ่มๆ หนุนรองศีรษะ หรือนอนบนเก้าอี้ที่ปรับระดับเอนหลังได้มากๆ

งีบสั้นๆ แต่ดันฝันเป็นตุเป็นตะ

เคยงีบหลับในระยะเวลาสั้นๆ แค่ 5-10 นาที แต่รู้สึกเหมือนหลับลึก ฝันเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนหลับไปนานเป็นชั่วโมงแล้วบ้างหรือเปล่า? หากเคย แสดงว่าในช่วงนั้น หรือเมื่อคืนก่อนหน้านั้น คุณอดนอน นอนน้อย นอนไม่เพียงพอ

แม้ว่าการงีบหลับในช่วงระยะเวลาสั้นๆ จะช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดชื่น และทำงานในช่วงบ่ายไปจนถึงเย็นต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อยากแนะนำให้นอนหลับให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อคืนมากกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลางีบหลับให้วุ่นวาย