วิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการ "ท้องร่วง-ท้องเสีย"
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/he/0/ud/2/12289/toilet-paper.jpgวิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการ "ท้องร่วง-ท้องเสีย"

    วิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการ "ท้องร่วง-ท้องเสีย"

    2018-08-07T19:00:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ทั้งสภาพอากาศร้อนชื้นในบ้านเรา ที่เป็นอุณหภูมิที่เสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ในอาหาร รวมไปถึงสุขอนามัยที่ไม่ดีขณะ และหลังเกิดอุทกภัย ทำให้หลายคนอาจตกอยู่ในภาวะเสี่ยงโรคท้องร่วง ท้องเสีย จากการทานอาหารที่ไม่สะอาดได้

    สาเหตุของโรคท้องร่วง ท้องเสีย

    นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โรคท้องร่วง ท่องเสีย เกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่

    1. ความสะอาดของอาหาร จะปนเปื้อนแบคทีเรีย หรือไวรัสก่อโรค

    2. อาหารปรุงสะอาดแล้วแต่เก็บไม่ดีก็บูดเสีย และ 3.การปนเปื้อนสารเคมีบางอย่าง ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินอาหาร ทั้งนี้กลุ่มที่เสี่ยงเกิดท้องเสียมากที่สุดคือเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ เพราะมีโอกาสหยิบจับสิ่งต่างๆเข้าปากได้ง่าย อีกทั้งสภาพร่างกายอาจจะไวต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่าตัว ถัดมาคือกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งสภาพร่างกายเองก็มีปฏิกิริยากับเชื้อค่อนข้างเร็ว

    ดังนั้น 2 กลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่ต้องดูแลเรื่องอาหาร และน้ำดื่มเป็นพิเศษ

     

    การดูแลขณะมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย

    หากอุจจาระเป็นน้ำถือว่าค่อนข้างรุนแรง ก็ต้องดูว่าอุจจาระเป็นน้ำบ่อยหรือไม่ ปริมาณมากน้อยแค่ไหน หากเพียงแค่อุจจาระเหลวกว่าปกติอาจจะไม่รุนแรงนัก ทั้งนี้การดูแลผู้ป่วยท้องร่วง ท้องเสียนั้นเนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำ จึงต้องให้สารน้ำทดแทน หากเป็นน้ำเปล่าอาจจะทำให้การดูดซึมเข้าร่างกายได้ไม่ดีและเร็วนัก ดังนั้น ควรรับประทานเกลือแร่ หรือน้ำเปล่าผสมเกลือลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มการดูดซึม หรือรับประทานผงโออาร์เอส ซึ่งมีทั้งน้ำตาล และเกลือ โดยการที่มีน้ำตาลก็เพื่อให้รับประทานง่าย และให้พลังงานทดแทน อย่างไรก็ตาม หากเป็นมากเมื่อดื่มกลุ่มเกลือแร่ 2-3 ครั้งแล้วยังไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์

    >> 5 วิธีการป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม 

    ขอขอบคุณ

    ข้อมูล :กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

    ภาพ :iStock