ม.หอการค้าไทย จับมือเจดีหน่วยงานใหญ่พร้อมรัฐบาลไทย ดัน SME ไทยสู่ตลาดโลก

ม.หอการค้าไทย จับมือเจดีหน่วยงานใหญ่พร้อมรัฐบาลไทย ดัน SME ไทยสู่ตลาดโลก

ม.หอการค้าไทย จับมือเจดีหน่วยงานใหญ่พร้อมรัฐบาลไทย ดัน SME ไทยสู่ตลาดโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และนายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานคณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU)ระหว่างเจดีเซ็นทรัลและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการเปิดตัว เจดี เซ็นทรัล อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และ ยังเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของไทย บันทึกข้อตกลงดังกล่าวยังเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ เจดี เซ็นทรัล และ JD.com ในการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระยะยาว ซึ่งจะช่วยวางรากฐานของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งในด้านอีคอมเมิร์ซ ด้านการขนส่ง และด้านการศึกษา ซึ่งไม่เพียงช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจไทยในตลาดโลก แต่ยังช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ของนักเรียนไทยเพื่อให้เกิดความรู้ทางด้านดิจิทัลในระดับมืออาชีพเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโลกธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืนอีกด้วย

รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านการค้าและธุรกิจบริการที่เปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมโลจิสติกส์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย และไม่หยุดที่จะพัฒนานักศึกษาให้เข้าสู่ยุค Smart Logistics ในขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ประกอบการไทย และนักศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น เรามีโครงการอบรมเสริมสร้างทักษะด้านการธุรกิจ อีคอมเมิร์ซเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ให้สามารถทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้หลังจากจบการศึกษา การลงนามความร่วมมือกับ เจดี เซ็นทรัล ช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมให้นักศึกษาได้เข้าใจในวิธีการทำงาน ทั้งด้านดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ รวมถึงโลจิสติกส์ และได้รับประสบการณ์ที่มีค่าจากการทำงานจริงกับสถานประกอบการ ผ่านหลักสูตร WiL (Work – integrated Learning) การจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงาน”

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า “เจดี เซ็นทรัล เล็งเห็นศักยภาพและการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และสถานศึกษาต่างๆเพื่อลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะสนับสนุนและผลักดันเศรษฐกิจไทยควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนการเติบโตของอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันให้ก้าวขึ้นไปอยู่บนเวทีโลก ที่ผ่านมาเราได้เปิดร้านค้าแฟลกชิพสโตร์ บนแพลทฟอร์ม เจดีดอทคอม เพื่อทำการจำหน่าย และส่งออกสินค้าไทยไปสู่ประเทศจีน และยังได้นำเสนอไอทีโซลูชั่นส์ ที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีในเรื่องของโลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานให้แก่หน่วยงานภาครัฐ อันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบสาธารณูปโภคนอกจากนี้ยังรวมถึงการเพิ่มทักษะทางด้านดิจิทัลให้กับบุคลากรและนักศึกษาไทยเพื่อสร้างการพัฒนาบุคลากรแบบยั่งยืน และเติมเต็มระบบนิเวศน์ของวงการอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยให้สมบูรณ์อีกด้วย”

นางคริสทีน หว่อง รองกรรมการบริหารฝ่ายรัฐสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เจดีกรุ๊ป กล่าวว่า “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเราได้พัฒนาชีวิตของผู้คน รวมถึงการค้าปลีก และโครงสร้างพื้นฐานในประเทศจีน ผ่านอีคอมเมิร์ซและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เราทำให้ผู้คนเห็นว่าเทคโนโลยีที่เรามุ่งมั่นพัฒนาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ทั้งนี้เราเชื่อว่าการร่วมมือกับ DITP depa และ เจดี เซ็นทรัล จะสามารถพัฒนาผู้บริโภคและผู้ประกอบการในประเทศไทยได้เฉกเช่นเดียวกันกับประเทศจีน พร้อมกันนี้ยังเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมไทยสู่นโยบาย Thailand 4.0 อย่างเต็มตัว และยังช่วยให้ผู้ประกอบการไทยจำหน่ายสินค้าคุณภาพให้กับผู้บริโภคต่างประเทศ เป็นอีกช่องทางที่ช่วยผู้ประกอบการ SME ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทาง”

ภายในงานครั้งนี้ยังได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง เจดีเซ็นทรัล ร่วมกับ JD.com และ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สังกัดกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม การลงนามความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ระหว่าง บริษัท อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ภาครัฐและมหาวิทยาลัย แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนนโยบายในประเทศไทยและนโยบายของไทยในการเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซที่สำคัญสำหรับอาเซียนในอนาคตอันใกล้นี้

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สถาบันการศึกษาเอกชนที่ไม่แสงหาผลกำไร ได้รับการยกย่องให้เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจของประเทศ และกำลังมุ่งสู่ระดับเอเชีย ด้วยจุดแข็งคือ การมุ่งเน้นการสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม (Innovation Driven Entrepreneurship หรือ IDE) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเอ็มไอทีประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้รับรางวัล Apple Distinguished School 2016 เนื่องจากนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเรียนผ่านระบบ Digital Hybrid Learning System ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์อบรมด้านอีคอมเมิร์ซ Alibaba.com ในประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมบริการของประเทศไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook