ขับรถลุยน้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่นมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับหนักสูงสุด 10,000 บาท

ขับรถลุยน้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่นมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับหนักสูงสุด 10,000 บาท

ขับรถลุยน้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่นมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับหนักสูงสุด 10,000 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     การขับรถช่วงหน้าฝนนอกจากจะต้องเพิ่มความระมัดระวังต่อตนเองเป็นพิเศษแล้ว ยังต้องเพิ่มความระมัดระวังให้กับคนเดินถนนอีกต่างหาก เพราะหากเผลอขับผ่านแอ่งน้ำจนกระเซ็นไปโดนผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเสียหายแล้วล่ะก็ อาจมีโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท จำคุกสุงสุด 3 เดือน แถมยังต้องชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย

     แม้ว่าการขับรถลุยแอ่งน้ำจนน้ำกระเซ็นไปโดนผู้อื่นในช่วงหน้าฝนจะดูไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก แถมยังเป็นสิ่งที่พบเห็นได้อย่างชินตา โดยเฉพาะตามซอกซอยที่มีรถสัญจรไปมาอยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับรถถูกปรับในอัตราโทษสูง แถมยังมีสิทธิ์ถึงขั้นจำคุกเลยทีเดียว

wet_road_02

     การขับรถจนเป็นเหตุให้น้ำกระเซ็นใส่ผู้อื่น เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 โทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนหรือความปลอดภัยของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 - 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

     ไม่เพียงเท่านี้ หากการกระทำดังกล่าวส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินแล้วล่ะก็ อาจเข้าข่ายความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามกฎหมายอาญา มาตรา 358 ระบุว่า ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์สินของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงอาจถูกฟ้องร้องค่าเสียหายทางแพ่งของทรัพย์สินต่างหากอีกด้วย

     ดังนั้น การขับรถผ่านแอ่งน้ำในขณะฝนตกควรใช้ความเร็วอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในเขตชุมชนที่มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา ควรลดความเร็วลงให้อยู่ในระดับที่จะน้ำจะไม่กระเซ็นใส่ผู้อื่น มิเช่นนั้นหากเจ้าทุกข์เอาเรื่องขึ้นมา ก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วยนะครับ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook